รีวิวเกม WRC 8

ถือว่ามีภาคใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับเกมแข่งรถ Rally ที่อยู่คู่วงการเกมมาอย่างยาวนาน ซึ่งทางผู้พัฒนาอย่าง KT Racing ก็ได้ปล่อยตัวเกมภาคใหม่ออกมา โดยใช้ชื่อว่า WRC 8 ที่เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ชื่นชอบเกมแข่งรถอย่างแน่นอน แต่ก็มาดูภาพรวมภายในเกมกันว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง ติดตามกันในรีวิวเกมนี้กันเลย

สามารถเล่นได้บนแพลตฟอร์ม PlayStation , Xbox และ PC เท่านั้น

ราคา 519 บาท บนร้านค้า Steam

WRC 8 : เกมแข่งรถแรลลี่ที่สนุกได้ทุกคน

Game About : รายละเอียดต่าง ๆ ภายในเกม

เรียกได้ว่าสร้างชื่อเสียงมาได้อย่างยาวนาน ที่จะมีการใช้ชื่อเต็มว่า World Rally Championship ซึ่งหลาย ๆ คนก็อาจจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ หรือยังไม่รู้จัก เราก็จะอธิบายให้ฟังคร่าว ๆ ก่อนว่าเกมนี้จะเป็นเกมแข่งรถ Rally ที่จะมีความท้าทาย รวมไปถึงอุปสรรคหลาย ๆ รูปแบบ อีกทั้งเส้นทางของสนามที่มีการออกแบบมาได้เป็นอย่างดี ซึ่งนั่นมันก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้เกมนี้นั้นตื่นเต้นในทุกครั้งที่ได้เล่นเลย โดยในภาคนี้ก็จะมีการเพิ่ม Career Mode เข้ามา ที่จะทำให้ผู้เล่นได้ทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เพื่อที่จะทำให้ทีมรถแข่งของเรานั้นชนะได้ ซึ่งมันก็เป็นอะไรที่ให้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับผู้เล่นได้เป็นอย่างดีเลย

Gameplay : ระบบภายในเกม

แน่นอนอยู่แล้วว่าเกมนี้จะเป็นเกมแนว Racing ที่จะมีความ Arcade พอสมควรเลย แต่ก็มาพร้อมกับความสมจริงเช่นกัน ที่ใน Career Mode ผู้เล่นจะได้ทำหน้าที่หลัก ๆ ตั้งแต่การหานักแข่ง การหารถที่สามารถใช้งานได้ อีกทั้งยังได้ปรับแต่งในส่วนของเครื่องยนต์อีกด้วย แน่นอนว่าเป้าหมายก็คือการชนะเลิศเพื่อนำเงินที่ได้มา มาพัฒนาให้ทีมของเราแข็งแกร่งขึ้นนั่นเอง อีกทั้งใน Mode นี้ก็สามารถเก็บรายละเอียดในแต่ละอย่างได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงในภาคนี้ทางผู้พัฒนายังใส่ใจไปถึงสภาพอากาศภายในเกม ที่จะมีผลต่อการขับขี่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นหิมะตก พายุฝน รวมไปถึงถนนที่มีพื้นผิวที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย ซึ่งนั่นก็จะทำให้การควบคุมรถนั้นยากขึ้นไปอีก

สิ่งอื่น ๆ ที่น่าสนใจภายในเกม

นอกจาก Career Mode ที่เป็นเหมือนโหมดหลักในภาคนี้แล้ว ตัวเกมยังมาพร้อมกับ Mode อื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกด้วย เช่น Multiplayer Mode ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้วัดฝีมือ หรือ ประลองความเร็วกับผู้เล่นคนอื่น ๆ ในสนามแข่งเดียวกัน อีกทั้งในภาคนี้ยังมาพร้อมกับระบบการแบ่งหน้าจอเป็น 2 จอได้อีกด้วย ซึ่งก็เพราะ สามารถเล่นแบบ Local กับเพื่อนของคุณได้ในเวลาเดียวกันนั่นเอง ซึ่งนี่ก็ถือเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับเกมใน Series นี้มาก ๆ ครับ

ให้คะแนน 8 / 10 คะแนน เพราะ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมแนว Arcade Racing ที่กลับมาพร้อมกับการพัฒนาในหลาย ๆ ด้านขึ้นมาเป็นอย่างดี อีกทั้งยังมาพร้อมกับโหมดการเล่นใหม่ ๆ รวมไปถึงสภาพอากาศที่สมจริงมากขึ้น ซึ่งโดยรวมแล้วก็เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ๆ ครับ