Ubisoft Singapore ถูกสอบสวนในข้อหาล่วงละเมิดโดยการเลือกปฏิบัติ

เมื่อเดือนที่แล้ว มีรายงานเกี่ยวกับการพัฒนาเกม Skull and Bones ซึ่งเป็นเกมโจรสลัดของ Ubisoft โครงการได้รับความทุกข์ทรมานจากการพัฒนาที่วุ่นวายนับตั้งแต่มีการประกาศ และรายงานให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมว่าทำไมจึงใช้เวลานานมาก: เป้าหมายที่ขัดแย้งกัน การไล่ตามเทรนด์ การหมดไฟของพนักงาน และสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นพิษโดยรวมที่ Ubisoft Singapore

Ubisoft Singapore งานเข้าอย่างหนักหน่วง

ตามรายงานของ Straits Times (ผ่าน IGN) สตูดิโอของ Ubisoft กำลังเผชิญกับการสอบสวนโดย The Tripartite Alliance for Fair and Progressive Employment Practices (TAFEP) ซึ่งเป็นหน่วยงานเฝ้าระวังระดับชาติเรื่องหลักปฏิบัติในการจ้างงานที่เป็นธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการอ้างสิทธิ์ในการเลือกปฏิบัติและการล่วงละเมิดทางเพศ มันบอกว่ามันได้รับความคิดเห็นที่ไม่เปิดเผยชื่อ เช่นเดียวกับลิงก์ไปยังบทความต่าง ๆ เกี่ยวกับข้อกล่าวหา เพียงไม่กี่วันหลังจากรายงานเบื้องต้นนั้น

หาก TAFEP พบว่า UbisoftSingapore มีความผิดในการเลือกปฏิบัติ (ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ อายุ เชื้อชาติ ฯลฯ) ก็จะทำให้สตูดิโอใช้นโยบายใหม่ได้เท่านั้น แต่ยังห้ามไม่ให้ยื่นขอใบอนุญาตทำงานใหม่สำหรับพนักงานต่างชาติ หรือต่ออายุรายการที่มีอยู่สำหรับที่ใดก็ได้ระหว่าง 12 ถึง 24 เดือน บุคคลที่มีความผิดจะต้องถูกปรับหรือจำคุก

Darryl Long กรรมการผู้จัดการของ UbisoftSingapore ให้ความเห็นเกี่ยวกับข้อกล่าวหา โดยกล่าวว่าการเลือกปฏิบัติในที่ทำงานและการล่วงละเมิดไม่เป็นที่ยอมรับ และมีการว่าจ้างหน่วยงานบุคคลที่สามให้ตรวจสอบข้อร้องเรียน เขารับทราบว่าสตูดิโอได้เห็นความท้าทายบางอย่างในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และยังมีงานที่ต้องทำเกี่ยวกับวัฒนธรรมของสตูดิโอ

นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับ Ubisoft โชคไม่ดี เมื่อปีที่แล้ว บริษัทถูกกล่าวหาว่าล่วงละเมิดทางเพศและล่วงละเมิดในที่ทำงานอยู่บ่อยครั้ง แม้ว่าบุคคลที่มีชื่อจะถูกปล่อยออกหรือลาออกจากบริษัท หลายคนรวมถึงพนักงานของ Ubisoft บางคนรู้สึกว่ายังดำเนินการไม่เพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง French Union Solidaires Informatique ได้ยื่นฟ้อง Ubisoft โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตั้งชื่อ CEO Yves Guillemot ว่าเป็นผู้รับผิดชอบในการส่งเสริมวัฒนธรรมที่เป็นพิษดังกล่าว

Ubisoft ไม่ใช่บริษัทเกมรายใหญ่เพียงแห่งเดียวที่พัวพันกับเรื่องอื้อฉาวเช่นนี้ Activision Blizzard ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่หยุดยั้งหลังจากมีข่าวการฟ้องร้องดำเนินคดีซึ่งกล่าวหา บริษัท ในสิ่งเดียวกันกับที่ Ubisoft ถูกกล่าวหา สิ่งต่าง ๆ แย่ลงสำหรับ บริษัท เมื่อดูเหมือนจะปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างแข็งขันโดยมีผู้บริหารคนหนึ่งเรียกคดีนี้ว่า “ไร้ค่า”

Activision ได้พยายามควบคุมความเสียหายตั้งแต่นั้นมา โดย CEO Bobby Kotick ได้ขอโทษสำหรับการตอบสนองเบื้องต้นและสรุปการเปลี่ยนแปลงในอนาคตที่จะเกิดขึ้นไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตาม ความพยายามของ บริษัท ดูเหมือนจะทำเพียงเล็กน้อยเพื่อเอาใจนักวิจารณ์ ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่น พนักงานปัจจุบันและอดีต หรือนักลงทุนของตัวเอง เมื่อพูดถึงนักลงทุน พวกเขาได้ยื่นฟ้อง Activision ของตัวเอง ฐานแสดงความคิดเห็นที่จงใจทำให้เข้าใจผิด