รีวิวเกม DOOM Eternal

ในปี 2016 เหล่าแฟน ๆ เกมเดินหน้ายิงแบบสุดโหด ก็ถูกดึงกลับมาในนรกอีกครั้ง ด้วยการปรับเปลี่ยนอะไรหลาย ๆ อย่างให้กับตัวเกมในภาคนี้ รวมไปถึงการสร้างความแปลกใหม่ให้กับเกมแนว First Person Shooting และการกลับมาคราวนี้ของเกม สำหรับผู้เล่นที่รอคอยนรกขุมนี้ ก็จะได้พบกับความมันส์ที่เต็มไปด้วยกระสุน ระเบิด และเลือดมากมาย ตามสไตล์ของเกมที่ต้องบอกว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน แล้วมันจะเป็นแบบนั้นจริงหรือไม่ ติดตามได้ในรีวิวเกม DOOM Eternal

สามารถเล่นได้บนแพลตฟอร์ม PlayStation 4 , Xbox ONE , Nintendo และ PC เท่านั้น

ราคา 1970 บาท

DOOM Eternal : เกมเดินหน้ายิงในตำนานของ Generation

Story : เนื้อเรื่องของเกม

ในเกมนี้จะมีพื้นหลังของเกมอยู่ที่โลก ที่โดนกองทัพจากนรกยึดครอบครองซะส่วนใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่าจะมีฮีโร่เพียงหนึ่งเดียว นั่นคือ Doom Slayer จากป้องปราการ Doom ที่พร้อมจะมาถล่มปีศาจทั้งกองทัพ ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องในเกมนี้ ในภาคก่อน ๆ จะไม่ได้เป็นจุดขายหลัก แต่มาในภาคนี้ถึงจะไม่ได้มีเนื้อเรื่องที่สุดยอดอะไรมากมาย แต่ก็ช่วยเติมเต็มเกมที่เน้นเดินหน้ายิงอย่างเดียว ได้ดีกว่าที่ผ่านมา โดยเมื่อผู้เล่นดำเนินเนื้อเรื่องไปเรื่อย ๆ พื้นที่บนยานก็จะค่อย ๆ เข้าถึงได้มากขึ้น และรวมไปถึงอาวุธใหม่ ๆ ก็เช่นกัน และทางลับมากมาย หากผู้เล่นเตรียมตัวพร้อมแล้วก็ได้เวลาเดินทางผ่านประตูมิติ เพื่อลงมาช่วยเหลือมนุษยชาติจากการสูญพันธุ์ แน่นอนว่าเกมจะยังคงรูปแบบ 1 Man Ammy หรือ 1 คนสู้กับทั้งกองทัพ และภาคนี้ก็ให้ความรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ ด้วยคลังแสงที่มากมาย และอาวุธทุก ๆ อย่างก็ล้วนจำเป็น โดยตัวเกมพยายาม Balance ให้ใช้อาวุธหลาย ๆ อย่าง ในการทำลายศัตรูในแต่ละพื้นที่ ซึ่งผู้เล่นจะต้องมีความเชี่ยวชาญอาวุธหลายรูปแบบ จึงจะสามารถผ่านไปได้

Visual And Sound : ภาพและเสียงภายในเกม

ภายในเกมนี้ยังคงนำเสนอภาพและเสียงในเกมจากซีรี่ย์ได้อย่างดี ที่สวยงาม สมจริง และดุดัน โหดเหี้ยม และงานเสียงที่โดดเด่น ด้วย Soundtrack ของเกม ก็เหมือนเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่ช่วยเพิ่มความดุเดือดของเกม เปรียบเสมือนตัวช่วยสูบฉีดเชื้อเพลิงของการ Action ได้เป็นอย่างดี

ความต้องการของระบบ

ขั้นต่ำ :

• Requires a 64-bit processor and operating system
• OS: 64-bit Windows 7 / 64-Bit Windows 10
• Processor: Intel Core i5 @ 3.3 GHz or better, or AMD Ryzen 3 @ 3.1 GHz or better
• Memory: 8 GB RAM
• Graphics: NVIDIA GeForce GTX 1050Ti (4GB), GTX 1060 (3GB), GTX 1650 (4GB) or AMD Radeon R9 280(3GB), AMD Radeon R9 290 (4GB), RX 470 (4GB)
• Network: Broadband Internet connection
• Storage: 80 GB available space
• Additional Notes: ( 1080p / 60 FPS / Low Quality Settings )
• PERIPHERALS: Windows-compatible keyboard, mouse and headset, optional Microsoft Xbox 360 Controller
• MULTIPLAYER: 256 kbps or faster broadband connection

ขั้นแนะนำ :

• Requires a 64-bit processor and operating system
• OS: 64-bit Windows 10
• Processor: Intel Core i7-6700K or better, or AMD Ryzen 7 1800X or better
• Memory: 8 GB RAM
• Graphics: NVIDIA GeForce GTX 1060 (6GB), NVIDIA GeForce 970 (4GB), AMD RX 480 (8GB)
• Network: Broadband Internet connection
• Storage: 80 GB available space
• Additional Notes: ( 1080p / 60 FPS / High Quality Settings ) – *On NVIDIA GTX 970 cards Texture Quality should be set to Medium
• PERIPHERALS: Windows-compatible keyboard, mouse and headset, optional Microsoft Xbox 360 Controller
• MULTIPLAYER: 256 kbps or faster broadband connection

ให้คะแนน 8.1 / 10 คะแนน เพราะ การกลับมาของเกมในครั้งนี้ เป็นการยกระดับเกมแนว FPS ขึ้นไปอีกครั้ง ที่เหมือนเป็นการดึงเอาศักยภาพทุกอย่างในปัจจุบันมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด