รีวิวเกม The Legend of Zelda : Tears of the Kingdom

สวัสดีค่าแฟนเกมที่น่ารักทุกท่าน วันนี้เราจะมา รีวิวเกม The Legend of Zelda : Tears of the Kingdom หนึ่งเกมออนไลน์แรงและกำลังเป็นที่พูดถึงกันไปทั่วโลก รีวิวเกม โดยตัวเกมภาคล่าเป็นภาคต่อเกมในตำนานอย่าง Zelda : Breath of the Wild ที่วางขายในปี 2017 และสามารถเรียกกระแสและเสียงตอบรับจากแฟนเกมทั่วโลกถล่มทลายทำลาย จนสามารถทำสถิติยอดขายแซงหน้าเกมออนไลน์ในช่วงนั้นได้อย่างก้างกระโดด อีกทั้งยังได้รับรางวัลเกมแห่งปีจากหลายสำนัก

การเดินทางผจญภัยที่กลับมาพร้อมกับความมันส์ รีวิวเกม The Legend of Zelda : Tears of the Kingdom

สำหรับการกลับมาของเกมออนไลน์ The Legend of Zelda : Tears of the Kingdom ภาคล่าสุดกลายเป็นภาคที่แบกความคาดหวังและแบกความกดดันไว้ เนื่องจากภาคก่อนหน้าทำออกมาได้ดีและได้รับการตอบรับที่อยู่ระดับที่ดีเลยทีเดียว หลังจากที่ตัวเกมได้ทำการพัฒนามาอย่างยาวนาน จึงทำให้แฟนเกมบางคนเกิดความสงสัยและเกิดความกังวลว่าการกลับมาในภาคล่าสุดจะทำเกิดความผิดหวังหรือไม่

แต่อย่างไรก็ตามสำหรับแฟนเกมที่ยังไม่เคยเล่น Breath of the Wild ทางเราขอแนะนำให้แฟนเกมกลับไปเล่นภาคต้นก่อน เพราะเนื้อหาภายในเกมภาคล่าสุดจะเชื่อมต่อกับภาคก่อนหน้า เพราะถ้าหากผู้เล่นเริ่มเล่นภาค Tears of the Kingdom ก็อาจจะรับรู้ราวเพียงบางส่วนเพียงเท่านั้น จึงทำให้กลับไปเล่นภายหลังแล้วรู้สึกไม่อิน ซึ่งถ้าหากผู้เล่นไม่มีเวลาก็สามารถเริ่มต้นการเดินทางผจญภัยในภาคล่าสุดได้เลย เพื่อสัมผัสกับความสนุกและความท้าทายในรูปแบบเกมเพลย์ที่ไม่เหมือนใคร

กราฟิกเหมือนเดิมทั้งในภาคก่อนหน้าและภาคล่าสุด

เกมออนไลน์ที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์และกลายเป็นภาคที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ของซีรีส์เกม The Legend of Zelda จากค่ายเกมยักษ์ใหญ่ Nintendo นอกจากนี้ Nintendo ยังได้ออกมารายงานความคืบหน้าเพิ่มเติมว่า ตัวเกมสามารถคว้ารายได้และทำยอดขายในอเมริกาได้ถึงกว่า 4 ล้านก๊อปปี้นับตั้งแต่เปิดขายเมื่อ 12 พฤษภาคม 2023 เป็นวันแรกและยังทำสถิติบนแพลตฟอร์ม Switch และ Nintendo ส่วนยอดจำหน่วยในญี่ปุ่นอยู่ที่ 2.24 ล้านก๊อปปี้

ถึงแม้ว่าตัวเกมจะมาเป็นภาคล่าสุด ซึ่งได้รับการพัฒนาจากภาคก่อนหน้าถึง 6 ปี แต่กราฟิกใน Tears of the Kingdom ก็ไม่ได้รับการอัปเกราอะไรเพิ่มเติมนัก กราฟิกและแนวการ์ตูนแบบเซลไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลง เพราะเนื่องจากตัวเกมเป็นภาคที่เชื่อมต่อกัน อีกทั้งในฉากหลังและฉากต่าง ๆ ภายในเกมยังคงมีรายละเอียดที่ครบประกอบและเสมือนจริง

ระบบเกมเพลย์ Openworld

ในส่วนระบบเกมเพลย์ Openworld จะมาในรูปแบบเกมแอ็กชัน ซึ่งเป็นรูปเดียวกัน Breath of the Wild จะเล่าถึงเรื่องราวเกี่ยวกับดินแดนอันกว้างใหญ่ที่รายล้อมไปความมหัศรรย์และรอคอยให้ผู้เล่นเข้าไปสำรวจ อีกทั้งในระหว่างการเล่นเกมและในระหว่างสำรวจตัวเกมเปิดโอกาสให้ผู้เล่นออกเดินทางสำรวจไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ตามอิสระ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าทึ่งและมีความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร

จุดเด่นและความพิเศษสำหรับภาคนี้ที่เป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยเพิ่มให้ระบบนำทางตัวเกมมีความเถียรมากยิ่งขึ้น เพราะหลังจากที่ผู้เล่นดำดิ่งไปสู่โลกด้านแล้ว จะมีจุดบอกใบ้ให้ผู้เล่นเริ่มทำภารกิจ ว่าจะต้องทำอะไร ทำที่ไหน ทำอย่างไร และมีการขึ้นตอนการแนะนำที่ไม่ซับซ้อน สามารถเข้าใจได้

ในส่วนของแอ็กชันในเกมจะเหมือนเดิมที่ Link ซึ่งผู้เล่นจำเป็นต้องใช้อาวุธเครื่องป้องกันการโจมตี ในระหว่างทำการต่อสู้ศัตรูผู้น่าเกรงขาม อาวุธและดาบยังคงถูกกำหนดด้วยค่าพลังงานเหมือนเดิมกับภาคที่แล้ว ซึ่งมีหน้าที่คอยกำหนดความเร็วและการวิ่ง หรือปีนป่ายไปบนที่สูง, ว่ายน้ำ, รวมทั้งใช้เครื่องร่อนด้วย ผู้เล่นจะต้องคอยสะสมพลังงานสำคัญ เพื่อนำมาอัปเกรดความอึด ความทนทานของตัวละคร เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้เล่นควรทำในการเล่นเกม

นอกจากนี้ตัวเกมภาคล่าสุดได้เพิ่มความสามารถของศัตรูให้มีคาวมหลากหลายและอันตรายมากยิ่งขึ้น เช่น Gleeoks ไททันหินมหึมา และศัตรูตัวเดิม ๆ จะได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ท้าทายขึ้น ตัวเกมยังไม่มีแผนรองรับ DLC ในตอนนี้ แต่คาดว่าอาจจะมีการเปิดตัวในภายหลัง
และท้ายที่สุด ตัวเกมมีกำหนดวางจำหน่าย 12 พฤษภาคมนี้ แบบ Exclusive บน Nintendo Switch เท่านั้น

ออกเดินทางไปท้าทายความอันตรายในดันเจี้ยน

ภายในเกมจะมีดันเจี้ยนหลัก ๆ และเรียกว่า Temples ซึ่งงถธกนำกลับมาใช้งานอีกครั้งและใช้แบบเดิมไม่ได้เป็น Divine Beasts แล้ว ตัวดันเจี้ยนอาจจะไม่ได้มีขนาดที่ใหญ่มากมัก แต่สามารถทำให้ผู้เล่นได้พบกับความท้าและความอันตรานได้เช่นเดียวกัน

สรุป The Legend of Zelda : Tears of the Kingdom เกมแอคชั่นแนวผจญภัยโลกเปิด

The Legend of Zelda : Tears of the Kingdom เป็นเกมแอคชั่นแนวผจญภัยโลกเปิด และยังเป็นภาคต่อที่จะมาสานต่อเรื่องราวและรวมไปถึงการดำเนินเนื้อเรื่องอย่างเป็นทางการของ The Legend of Zelda : Breath of the Wild โดยในภาคล่าสุดจะเป็นการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่และท้าทายมากกว่าเดิมหลายเท่า เพราะผู้เล่นทุกคนจะได้ร่วมออกเดินทางไปยังสถานที่ใหม่ ๆ และรายล้อมไปด้วยอันตรายบนดินแดนแห่ง Hyrule เพื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ไม่สามารถคาดเดาบนเกาะปริศนาลอยอยู่บนฟ้า