รีวิวเกม Valkyrie no Densetsu อีกหนึ่งเกมในตำนานจาก Namco

หากใครที่เกิดในช่วงยุค 90 ก็น่าจะต้องรู้จักค่ายเกมยักษ์ใหญ่อย่าง Namco กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว โดยพวกเขาก็มีผลงานเกมดี ๆ อยู่มากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเกมอย่าง Valkyrie no Densetsu ที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จมาก ๆ ในยุคนั้น และล่าสุดทาง Namco เองก็ได้มีการนำเกมนี้กลับมาวางขายอีกครั้งบนเครื่อง Console ยอดนิยมอย่าง PlayStation และ Nintendo Switch ซึ่งจะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้างนั้น ก็ไปติดตามกันในรีวิวเกมนี้กันเลย

สามารถเล่นได้บนแพลตฟอร์ม Nintendo Switch เท่านั้น

ราคา 274 บาท

Valkyrie no Densetsu : อีกหนึ่งเกมในตำนานจาก Namco

Game About : รายละเอียดต่าง ๆ ภายในเกม

มาเริ่มกันที่เรื่องราวภายในเกมกันก่อนเลยครับ ในเกมนี้จะมีเรื่องราวต่อจากตัวเกมในภาคแรก โดยหลังจากที่ดินแดนอย่าง Marvel Land ได้กลับมาสู่ความสงบสุขอีกครั้งแล้ว แต่อยู่ ๆ ทางด้านของปีศาจอย่าง Kamooz ก็ได้กลับมาอีกครั้ง และมันก็สามารถแย่งชิงในส่วนของเมล็ด Golden Seed ไปได้ นั่นจึงทำให้ดินแดนแห่งนี้กลับมามีแต่ความยากลำบากอีกครั้ง ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้ทางด้านของผู้เล่น ที่จะได้รับบทเป็น Valkyrie ที่จะต้องร่วมมือกับพวกพ้อง เพื่อที่จะไปจัดการกับเจ้าปีศาจ Kamooz และนำเมล็ด Golden Seed กลับมาให้ได้ เพื่อที่ทำให้ดินแดน Marvel Land กลับมามีความสุขอีกครั้ง ซึ่งรวม ๆ แล้วเรื่องราวของเกมนี้ก็มี Plot เรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ แต่ส่วนตัวยังดูว่าเชยไปหน่อย

Gameplay : ระบบภายในเกม

ในส่วนของ Gameplay ยังคงเป็นรูปแบบเกมแนว Action 2D ที่จะมีการเล่นจากมุมมองด้านบน ซึ่งจากที่ได้รีวิวเกมมาเกมนี้ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมายครับ ที่จะให้อารมณ์เกมแนว Arcade มากกว่าเกมแนว RPG ผู้เล่นจะมีหน้าที่เพียงควบคุมในตัวของ Valkyrie เพื่อเอาชีวิตรอดไปให้ถึงการต่อสู้กับบอสของแต่ละด่านก็พอแล้วครับ หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าง่าย แต่หากเทียบกับในยุค 90 ที่ต้องหยอดเหรียญเพื่อเล่นเกมก็อาจจะทำให้ใครหลาย ๆ คนหมดเงินเยอะได้เลย แต่ใน Version ของเครื่อง Console นี้ผู้เล่นก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นอีกเลยครับ และในเรื่องของอาวุธก็จะเป็นเหมือนการปล่อยพลังเวทย์ไปโจมตีศัตรู คล้าย ๆ กับเกมแนวยานยิง 2D รวมไปถึงภายในเกมเองก็มีการพัฒนาตัวละครด้วยครับ แต่ก็เรียบง่ายมาก ๆ รับรองว่าเล่นได้ทุกเพศทุกวัยแน่นอนครับ

Graphic : กราฟิกต่าง ๆ ภายในเกม

ในส่วนของกราฟิกหลาย ๆ คนอาจจะคาดหวังว่าจะมีการพัฒนาหรือยกระดับขึ้น แต่ไม่เลยครับ เพราะตัวเกมกลับมาวางขายในแบบ Arcade Archives ที่จะเป็นการยกระบบแบบเดิม ๆ ทุกอย่างมาหมดเลยครับ ทั้งกราฟิกแบบต้นฉบับ ไปจนถึงขนาดของหน้าจอที่จะให้อารมณ์เหมือนผู้เล่นกำลังเล่นเกมตู้อยู่ไม่มีผิดเลยครับ

ให้คะแนน 8 / 10 คะแนน เพราะ โดยรวมแล้วในรีวิวเกมนี้ก็เหมือนเป็นการนำเกมเก่ากลับมารีวิวอีกครั้ง ซึ่งการกลับมาวางขายใหม่ครั้งนี้บนเครื่อง console ที่ดีกว่า ก็ทำให้หลาย ๆ คนได้กลับมาสัมผัสกับความคลาสสิคอีกครั้ง และที่สำคัญเลยคือราคาของตัวเกมก็ถูกมาก ๆ ครับ