รีวิวเกม Unbound Worlds Apart การผจญภัยของพ่อมดกับดินแดนข้ามมิติ

ก็อยู่กันกับอีกหนึ่งเกมแนว Action Adventure ที่จะเน้นไปที่การผจญภัยพร้อมกับเรื่องราวที่ค่อนข้างน่าติดตาม ซึ่งเป็นเกมที่ชื่อ Unbound Worlds Apart ที่จะมาพร้อมกับตัวละครหลักในเกมที่มีความสามารถพิเศษที่น่าสนใจมาก ๆ ครับ ก็ไปดูพร้อม ๆ กันดีกว่าครับว่าเกมนี้จะมีความน่าสนใจแค่ไหน

สามารถเล่นได้บนแพลตฟอร์ม Nintendo Switch และ PC เท่านั้น

ราคา 289 บาท บนร้านค้า Steam

Unbound Worlds Apart : การผจญภัยของพ่อมดกับดินแดนข้ามมิติ

Game About : รายละเอียดต่าง ๆ ภายในเกม

ในเกมนี้เปิดมาผู้เล่นจะได้ดูเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนที่จะเริ่มเกมครับ โดยในเกมนี้ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นพ่อมดน้อยที่มาพร้อมกับความสามารถพิเศษที่จะเป็นการเปิดมิติเวลา ซึ่งมิติเวลาที่เปิดในแต่ละครั้งก็จะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป เช่น เปิดแล้วจะมีพลังที่เยอะขึ้น เปิดแล้วจะทำให้แรงโน้มถ่วงสลับขึ้นลง ไปจนถึงการเปิดแสงสว่างให้พื้นที่มืด เป็นต้นครับ เรียกได้ว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยครับ อีกทั้งฉากหลังในเกมเองก็ทำออกมาให้รู้สึกว่าเป็นโลกหลังภัยพิบัติได้อย่างชัดเจน กราฟิกเองก็น่ารักเข้ากับ Gameplay ได้ค่อนข้างลงตัวเลยครับ

Gameplay : ระบบภายในเกม

อย่างที่เนื้อเรื่องของตัวเกมได้เกริ่นในช่วงเริ่มเกมว่าเกมนี้จะมีฉากหลังเริ่มมาที่โลกหลังเกิดภัยพิบัติเรียบร้อยแล้วครับ ผู้เล่นก็จะต้องเอาชีวิตรอดไปจากสถานที่แห่งนี้ให้ได้ครับ ซึ่งระหว่างที่เล่นก็จะมีในเรื่องของ Checkpoint ให้ผู้เล่นเผื่อว่าจะมีการ Game Over เกิดขึ้นอีกด้วย ซึ่งหากผู้เล่นพลาดตายก็จะสามารถกลับมาเริ่มต้นที่ Checkpoint ล่าสุดนั่นเองครับ ซึ่งความโดดเด่นของเกมนี้แน่นอนครับว่าจะเป็นการผจญภัย ที่ผสมผสานโลกทั้ง 2 มิติเข้าด้วยกันได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งวิธีการเล่นหลัก ๆ ก็คือการใช้โลกทั้ง 2 มิตินี่แหละครับในการช่วยแก้ Puzzle หรือหาทางผ่านไปให้ได้จนกว่าจะจบเกม

สิ่งอื่น ๆ ที่น่าสนใจภายในเกม

อีกหนึ่งเรื่องที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมคือในส่วนของ Performance ที่ลื่นไหลมาก ๆ ครับ เรียกได้ว่าตลอดการเล่นทั้งเกมผู้เล่นจะได้เล่นเกมนี้แบบ 60 FPS แบบลื่น ๆ เลยครับ และเนื่องด้วยเกมนี้เป็นเกมแนวผจญภัย จึงทำให้ในส่วนของการควบคุมตัวละครก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย ที่จะมีตั้งแต่การเดิน กระโดด ลากของ และการเปลี่ยนมิติของโลก เท่านั้นเองครับ

ให้คะแนน 8 / 10 คะแนน เพราะ จากที่ได้รีวิวเกมนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเกมจากทีมงานผู้พัฒนาค่ายเล็ก ๆ แต่กลับทำผลงานเกมออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวภายในเกมที่จะค่อยเฉลยมาระหว่างการเล่นว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ Gameplay ที่แปลกใหม่ สนุก และ Performance ภายในเกมที่ลื่นไหล หากเทียบกับราคาเกมเพียง 200 กว่าบาทก็ถือว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่ามาก ๆ ครับ