รีวิวเกม Trine 4 The Nightmare Prince

ถือว่าเป็นเกมแนว Action Platformer ที่ทุกวันนี้แทบจะไม่มีผู้พัฒนารายไหนผลิตมาอีกแล้ว ซึ่งมันก็ไม่ได้เป็นเพราะอะไร แต่มันเหมือนจะเป็นเกมที่ตกยุคไปแล้ว แต่ล่าสุดการกลับมาของ Trine 4 The Nightmare Prince ก็ทำให้เกมแนวนี้กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง แต่เกมนี้จะมีอะไรที่โดดเด่นบ้างนั้นก็ไปติดตามกันในรีวิวเกมนี้กันเลย

สามารถเล่นได้บนแพลตฟอร์ม Nintendo Switch , PlayStation และ PC เท่านั้น

ราคา 379 บาท บนร้านค้า Steam

Trine 4 The Nightmare Prince : การกลับมาของผู้กล้าในฝันร้าย

Game About : รายละเอียดต่าง ๆ ภายในเกม

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เกมนี้จะเป็นเกมแนว Action Platformer ที่จะมีจุดเด่นคือกราฟิก ที่ผสมผสานเข้ากับ Puzzle ภายในเกมได้อย่างลงตัว อีกทั้งผู้เล่นยังจะได้รับบทเป็นตัวละครหลักทั้ง 3 ตัว ไม่ว่าจะเป็น Zoya , Amadeus และ Pontius ที่แต่ละตัวนั้นก็จะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งในภาคนี้เองก็ได้กลับมาใช้การเล่นแบบ Side Scrolling ที่จะเป็นการเล่นจากมุมมองด้านข้างแบบเดิม ซึ่งมันก็เหมาะสมแล้ว เพราะตัวเกมเองจะมี Puzzle ให้ผู้เล่นได้แก้เพื่อเปิดทางอีกด้วย มันก็ทำให้เล่นง่ายขึ้นนั่นเอง

Gameplay : ระบบภายในเกม

ในส่วนของ Gameplay ภายในเกมก็ถือว่าเป็นจุดเด่นหลักของเกมนี้เลยก็ว่าได้ ที่จะเป็นเหมือนเกมแนว Adventure Puzzle หรือเกมแนวผจญภัยที่มีการผสมผสานปริศนาระหว่างทางเข้ามาด้วย ที่ระหว่างทางนั้นก็จะมีศัตรูในรูปแบบต่าง ๆ ที่เกิดมาจากฝันร้าย ที่ผู้เล่นจะต้องเลือกใช้งานตัวละครทั้ง 3 ตัวให้เหมาะสม ตามสถานการณ์ที่ได้เจอ อีกทั้งตัวเกมเองยังมีการนำเอาระบบ Physic เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่นในการแก้ Puzzle บางอย่างจะต้องใช้การเคลื่อนที่ หรือ ระบบที่สมจริง เช่นการนำเอาวัตถุไปถ่วงไว้ เพื่อให้ตัวละครของเรากระโดดไปยังที่สูงได้ ซึ่งเกมนี้เองก็สามารถเล่น CO – OP กับเพื่อนได้อีกด้วย โดยสามารถผจญภัยได้พร้อมกันถึง 4 คนเลยทีเดียว

สิ่งอื่น ๆ ที่น่าสนใจภายในเกม

ในเกมนี้จะมีการควบคุมที่มีพื้นฐานเหมือนเกม Action ทั่วไป ที่ผู้เล่นจะสามารถเดินได้เพียง 2 ทางเท่านั้น นั่นคือ ซ้ายกับขวา รวมไปถึงการกระโดด และการใช้ความสามารถพิเศษของตัวละครแต่ละตัว เช่น Amadeus ที่จะมีความสามารถในการเคลื่อนย้ายสิ่งต่าง ๆ ด้วยพลังเวทย์ ต่อมาคือ Pontius ที่จะเน้นการใช้กำลังเป็นหลัก เหมาะสำหรับใช้ในการต่อสู้ และสุดท้ายคือ Zoya ที่จะมีจุดเด่นคือความคล่องตัว อีกทั้งยังสามารถใช้สลิงในการเคลื่อนที่ได้ด้วย

ให้คะแนน 8 / 10 คะแนน เพราะ เป็นอีกหนึ่งเกมที่มีการกลับมาได้อย่างยอดเยี่ยม และทำให้เกมแนว Platformer กลับมามีกระแสที่ดีอีกครั้ง อีกทั้งยังมีการเพิ่มระบบอย่าง Local Multiplayer มาอีกด้วย ทำให้ในการผจญภัยนั้นมีความหลากหลายมากขึ้นนั่นเอง