รีวิวเกม Sackboy A Big Adventure

ตั้งแต่ในยุค  PS3 ที่ตัวละครกระสอบทรายหรือ Sackboy กลายเป็นหนึ่งใน Mascot ของ PlayStation จาก Series Little Big Planet ที่เป็นเกมแนว Platformer 2D ผสมผสานเข้ากับการสร้างและการ Customize สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ และคราวนี้ก็ได้ออกภาคเสริมมาโดยใช้ชื่อ Sackboy มาเป็นชื่อเกมพร้อมทั้งตัดระบบการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ไปและเน้นไปที่ Gameplay แบบ 3D Platformer ที่เข้มข้นในโหมดหลักแทน ก็ต้องมาดูกันว่าการฉายเดี่ยวของเจ้ากระสอบทรายครั้งนี้ จะพาผู้เล่นไปพบกับการผจญภัยแบบไหน และจะดีพอจะกลายเป็น Series หลักหรือไม่ ติดตามในรีวิวเกม Sackboy A Big Adventure

สามารถเล่นได้บนแพลตฟอร์ม PlayStation 5  เท่านั้น

ราคา 2032 บาท

Sackboy A Big Adventure : การผจญภัยสุดท้าทายของเจ้ากระสอบ

Story & Game Design : เนื้อเรื่องและรูปแบบของเกม

เนื้อเรื่องของ Sackboy ในภาคนี้ก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน และค่อนข้างเป็นเส้นตรงที่ Sackboy จะเป็นที่จะต้องหยุดยั้ง Vex ผู้ชั่วร้ายจากการทำลายโลก โดยตลอดเนื้อเรื่องหลักตลอด 8 – 10 ชั่วโมงนั้นจะมีแทรกเข้ามาด้วยเหตุการณ์น่ารัก ๆ ที่เข้ากับตัวเกมและการผจญภัย แต่ก็ไม่ได้มีอะไรที่แปลกแหวกแนวหรือหักมุมเท่าไหร่นัก แน่นอนว่าเกมนี้คือเกมที่เน้นไปที่ Gameplay เรื่องราวเองก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นสนใจเท่าไหร่ แต่ด้วยการออกแบบโลกที่เป็นเอกลักษณ์ ก็ช่วยให้ทุกครั้งที่เดินทางจากจุดเริ่มต้นจนจบด่าน ผู้เล่นจะไม่ได้ Focus อยู่ที่ Gameplay อย่างเดียวแน่นอน แต่จะต้องเพลิดเพลินไปกับฉากในเกม

Gameplay : ระบบภายในเกม

แม้ว่าการเล่นในภาคนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ของแฟรนไชส์ แต่ในคราวนี้ก็ได้มีการเปลี่ยนมุมมองจาก 2.5D ในโลกของ Little Big Planet มาเป็นแบบ 3D เต็มรูปแบบ ทำให้ช่วยเพิ่มอิสระและความท้าทายในการสำรวจและการเล่นในแต่ละ Level มากขึ้น ที่การควบคุมนั้นถือว่าทำออกมาได้ดี ดูแน่น กระชับขึ้นไม่ได้ดูลอย ๆ เหมือนเกมก่อน ๆ แต่ก็อาจจะมีบางครั้งที่รู้สึกว่ากะจังหวะยาก โดยเฉพาะเวลากระโดด รวมไปถึงยังมีการอัพเกรดการเคลื่อนไหว และความสามารถใหม่ ๆ ให้กับ Sackboy อีกด้วย ทั้งกลิ้งหลบ ต่อย รวมไปถึงลอยตัวกลางอากาศชั่วขณะ ที่อาจจะไม่ได้มากมายแต่ก็ช่วยเพิ่มความสดใหม่ให้กับตัวเกมมากกว่าเดิม

PlayStation 5 Spec

• CPU : x86-64-AMD Ryzen Zen 8 Cores / 16 Threads at 3.5GHz (variable frequency)
• GPU : Ray Tracing Acceleration
• GPU Architecture : AMD Radeon RDNA 2-based graphics engine
• Memory/Interface : 16GB GDDR6/256-bit
• Memory Bandwidth : 448GB/s
• Internal Storage : Custom 825GB SSD
• IO Throughput : 5.5GB/s (Raw), Typical 8-9GB/s (Compressed)
• Expandable Storage : NVMe SSD Slot
• External Storage : USB HDD Support
• Optical Drive (optional) : Ultra HD Blu-ray (66G/100G) ~10xCAV
• PS5 Game Disc : Ultra HD Blu-ray, up to 100GB/disc
• Video Out : HDMI Out port Support of 4K 120Hz TVs, VRR (specified by HDMI ver 2.1)
• Weigh :  4.5kg
• Power PS5 : 350W
• Input / Output : USB Type-A port (Hi-Speed USB)
• USB Type-A port (Super Speed USB 10Gbps) x2
• USB Type-C port (Super Speed USB 10Gbps)
• Networking : Ethernet (10BASE-T, 100BASE-TX, 1000BASE-T)

ให้คะแนน 8.1 / 10 คะแนน เพราะ เกมนี้คือเกม Platformer ที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ทั้งงานด้านภาพและเสียง ที่ช่วยให้เพลิดเพลินในทุก ๆ ด่าน แม้จะไม่ได้มีเรื่องราวที่ซับซ้อน แต่การออกแบบภายในเกมก็มีสิ่งดึงดูดเพียงพอ ที่จะทำให้ผู้เล่นตื่นตาตื่นใจได้ตลอดการผจญภัย