รีวิวเกม Paper Mario Color Splash

จะเรียกได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของเกม Mario เลยก็ว่าได้ ที่จะเป็นการเล่นในแบบ RPG ซึ่งเกมนี้ก็ไม่ใช่เกมใหม่อะไร โดยมันเคยถูกปล่อยมาให้กับเครื่อง Console อย่าง PS 1 มาก่อนแล้ว ก่อนที่ทางด้านของ Nintendo จะมารับช่วงไปดูแลต่อ ซึ่งหลังจากนั้นเกมนี้ก็ได้ถูกนำไปต่อยอดในอีกหลายภาคเลย หนึ่งในนั้นคือเกมอย่าง Paper Mario Color Splash ที่จะนำเสนอตัวเกมผ่านโลกที่เป็นกระดาษ แต่จะน่าสนใจขนาดไหนก็ไปติดตามกันในรีวิวเกมนี้กันเลย

สามารถเล่นได้บนแพลตฟอร์ม Nintendo Wii U เท่านั้น

ราคา 1984 บาท

Paper Mario Color Splash : ภาคสุดท้ายของมาริโอ้บน Wii U

Game About : รายละเอียดต่าง ๆ ภายในเกม

อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าเกมนี้ไม่ใช่เกมใหม่อะไรเลย ที่จะมีการนำเสนอกราฟิกในมุมมองของกระดาษ ไม่ว่าจะเป็นฉากหลัง หรือ Design Character ก็ล้วนจะเป็นกระดาษทั้งหมด ที่เหมือนเป็นมุมมองใหม่ ๆ ของ Mario แลย ที่จะมีตัวละครเป็นแบบ 1D แต่ในส่วนของฉากหลังจะเป็นแบบ 3D ที่ในเกมนี้จะมีการยกระดับกราฟิกขึ้นมาให้เป็นแบบ HD ที่ถือว่าเป็นการพัฒนาที่สมจริงมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงได้กับทุกเพศทุกวัยอีกด้วย โดยรูปแบบ Gameplay ต่าง ๆ ก็เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน อีกทั้ง UI ภายในเกมก็สอนให้ผู้เล่นเข้าใจในระบบการเล่นได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

Gameplay : ระบบภายในเกม

เกมนี้จะมีรูปแบบ Gameplay ที่เกมแนว Turn Based RPG ที่ผู้เล่นจะได้สลับกันใส่คำสั่งการโจมตี กับฝ่ายตรงข้าม ที่ก่อนการต่อสู้ก็จะมีการตัดเข้าหน้า Cut Scene สั้น ๆ ก่อน ที่จะเป็นเหมือนการเลือกความสามารถ หรือ Card ในการให้คำสั่งต่าง ๆ รวมไปถึงท่าไม้ตายของตัวละครอีกด้วย ที่จะเป็นการเล่นผ่านจอที่สองของเครื่อง Wii U ซึ่งจุดเด่นหลัก ๆ จะอยู่ที่การกดปุ่มต่าง ๆ ให้ตรงกับจังหวะภายในเกม ที่ต้องกดให้ทัน หากกดไม่ทันผู้เล่นก็จะโดนศัตรูโจมตี แต่ถ้ากดทันก็จะเป็นเหมือนการต่อ Combo อีกทั้งยังสามารถหลบการโจมตีของศัตรูได้อีกด้วย ซึ่งก็จะง่ายกว่าเกมอย่าง Paper Mario อยู่มาก อีกทั้งยังมีการออกแบบฉากหลังที่สุดยอดมาก ๆ อีกด้วย รวมไปถึงเรื่องราวของเกมที่มีทุกอารมณ์ให้ผู้เล่นได้ซึมซับอีกด้วย

จุดเด่นอื่น ๆ ภายในเกม

เกมนี้จะมีเรื่องราวให้ผู้เล่นได้ติดตามอีกด้วย โดยจะมีฉากหลังในดินแดนที่มีสีสันสวยงาม แต่แล้ววันหนึ่งก็ได้มีปีศาจเข้ามาบุกดินแดนแห่งนี้ อีกทั้งยังได้ลักพาตัวเจ้าหญิงไปอีกด้วย จึงเป็นหน้าที่ของผู้เล่นที่ได้รับบทเป็น Mario จะต้องออกเดินทางผจญภัยเพื่อตามหาเจ้าหญิง อีกทั้งจะต้องทำให้ดินแดนแห่งนี้กลับมาสงบสุขอีกครั้งได้อีกด้วย

ให้คะแนน 8 / 10 คะแนน เพราะ เป็นการส่งท้ายเกมดังในตำนานบนเครื่อง Wii U ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวภายในเกม หรือกราฟิกที่ทำออกมาเรียบ ๆ แต่เข้ากับรูปแบบ Gameplay แต่ก็ยังคงมีปัญหาในเรื่องของการควบคุมอยู่บ้างเล็กน้อยแต่เมื่อปรับตัวได้ก็คงไม่มีปัญหาอะไร