รีวิวเกม KOF

อยากที่หลาย ๆ คนรู้ดีอยู่แล้วว่าสุดยอดเกม Fighter หรือเกมต่อสู้ที่โด่งดังมาตั้งแต่ยุค 90 ก็คงจะเป็นเกมอย่าง The King of Fighters ซึ่งก็มีภาคต่อของเกมมามากมาย และในวันนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่เกมนี้จะมาอยู่บน Platform ของเกมมือถือ โดยจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อย่ออย่าง KOF แทน ซึ่งในต่างประเทศเกมนี้ก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก ๆ ก็ต้องมาดูกันว่าเกมนี้จะเป็นยังไง ติดตามกันในรีวิวเกมนี้กันเลย

สามารถเล่นได้บนแพลตฟอร์ม Android และ iOS เท่านั้น

เกมฟรี

KOF : เกมต่อสู้ระดับตำนานบนมือถือ

Game About : รายละเอียดต่าง ๆ ภายในเกม

มาเริ่มกันในส่วนแรกกันก่อนเลย นั่นคือส่วนของกราฟิกที่ตัวเกมได้นำมาใช้ โดยเกมนี้ดูเหมือนว่าผู้พัฒนาตั้งใจที่จะใช้กราฟิกเหมือนในยุคที่ตัวเกมรุ่งเรื่อง ที่ให้ความรู้สึกคลาสสิคได้เป็นอย่างดี แต่ก็ได้มีการนำมายกระดับให้มีความเข้ากับยุคสมัยมากขึ้น ที่จะอยู่ในระดับ HD อีกทั้งยังมีการเก็บรายละเอียดอย่างดีอีกด้วย ซึ่งมันก็ทำให้ทั้งผู้เล่นเก่า รวมไปถึงผู้เล่นใหม่เข้าถึงตัวเกมได้เป็นอย่างดี อีกทั้งฉากหลังต่าง ๆ รวมไปถึง Effect ในการต่อสู้ก็ถูกพัฒนามาได้ดีขึ้นเช่นกัน และ Design Character ภายในเกมก็เรียกได้ว่ายังทำออกมาได้ยอดเยี่ยมเหมือนเช่นเคย

Gameplay : ระบบภายในเกม

ในส่วนของ Gameplay ภายในเกมแน่นอนว่ามันจะเป็นเกมแนว Fighter ที่หลายคนคุ้นเคย แต่จะเปลี่ยนจากการต่อสู้แบบ Real Time ไปเป็นแบบ Turn Based ที่จะใช้พื้นฐานเหมือนเกม Turn Based ทั่วไป ที่ผู้เล่นจะต้องออกคำสั่งให้กับตัวละครภายในทีม ซึ่งหลัก ๆ ผู้เล่นจะต้องจัดทีมขึ้นมาว่าจะให้ตัวละครแต่ละตัวอยู่ที่ตำแหน่งไหน แล้วก็นำทีมของเรานั้นไปเล่นในแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการผจญภัย รวมไปถึง PVP แบบต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่น ๆ อีกทั้งตัวละครแต่ละตัวนั้นก็จะมีการใช้ Skill ที่แตกต่างกันออกไป โดยผู้เล่นสามารถเลือกได้อีกด้วยว่าจะเปิดแบบ Auto หรือจะควบคุมด้วยตัวเองก็ได้ อีกทั้งการต่อ Combo ภายในเกมนี้ก็จะขึ้นอยู่กับ Gate พลังงานของตัวละครตัวนั้น ๆ ครับ หากหมด ก็ไม่สามารถทำการโจมตีได้

สิ่งอื่น ๆ ที่น่าสนใจภายในเกม

อย่างที่บอกไปว่าเกมนี้จะเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นเกมมือถือแนว Turn Based แทน แต่พอเอาเข้าจริง ๆ ก็ไม่ได้มีเวลาให้ผู้เล่นคิดเยอะขนาดนั้น ซึ่งมันจะเป็นอะไรที่รวดเร็วพอสมควร หากผู้เล่นเลือกคำสั่งไม่ทันก็จะเสีย Turn นั้นไปแบบฟรี ๆ ซึ่งก็เป็นอะไรที่ท้าทายผู้เล่นพอสมควรเลย อีกทั้งยังมีการกดจังหวะให้ Perfect อีกด้วย เพราะ หากผู้เล่นกดทันก็จะเป็นการต่อ Combo ที่มันจะรุนแรงขึ้นไปเรื่อย ๆ นั่นเองครับ

ให้คะแนน 8 / 10 คะแนน เพราะ ถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนรูปแบบ Gameplay ไป แต่ก็ยังมีความเร้าใจอยู่ ที่ยังคงรักษามาตรฐานความสนุกของเกมได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีระบบ Auto ให้สำหรับผู้เล่นที่ขี้เกียจควบคุมเองอีกด้วย และที่สำคัญเลยคือเกมนี้ยังรองรับภาษาไทยอีกด้วยครับ