รีวิวเกม Iron Throne

หลังจากมีการเปิดตัวในโซนยุโรป และ หลาย ๆ ประเทศมาก่อนแล้ว เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา สำหรับเกมอย่าง Iron Throne ที่จะเป็นเกมแนววางแผนการต่อสู้แบบ Real Time ที่จะมีการนำเอาสงครามยุคกลางมาเป็น Setting ของเกม อีกทั้งกราฟิกในรูปแบบ 3D ก็ต้องมาดูกันว่าเกมนี้จะมีระบบอะไรที่น่าสนใจอีก ก็ไปติดตามกันเลยครับผม

สามารถเล่นได้บนแพลตฟอร์ม Android และ iOS เท่านั้น

เกมฟรี

Iron Throne : เกมแนวชิงปราสาทบนมือถือ

Game About : รายละเอียดต่าง ๆ ภายในเกม

ถือว่าเป็นอะไรที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยมากนัก สำหรับเกมมือถือแนว Tactics Real Time ที่จะมาพร้อมกับเนื้อเรื่องที่เข้มข้น ที่จะมีเรื่องราวเริ่มต้นอยู่ในเมือง Tellurian ที่กำลังเกิดสงครามระหว่างพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งในช่วงท้ายของสงคราม พ่อมดคนหนึ่งที่กำลังเสียเปรียบเขาก็ได้ปลดผนึกพลังงานของสิ่งของบางอย่างเพื่อที่จะให้เขามีชีวิตรอด แต่หลังจากนั้นมันก็ทำให้แผ่นดินได้แตกสลาย เพราะ พลังที่เขาได้ปลดปล่อยนั้นได้ไปทำลายทุก ๆ อย่างให้สลายไป เหลือเพียงช่องว่างของเวลา ไม่ว่าจะเป็นวิญญาณ หรือความดี ความเลว ทุก ๆ อย่างล้วนหายไปหมด ผ่านมาหลายปี ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นทายาทคนหนึ่งของเมืองแห่งนี้ และมีหน้าที่จะต้องฟื้นฟู รวมไปถึงนำความสุขกลับมายังเมืองแห่งนี้ให้ได้อีกครั้งนั่นเองครับ

Gameplay : ระบบภายในเกม

ในส่วนของ Gameplay ตัวเกมก็ค่อนข้างให้อิสระกับผู้เล่นพอสมควร ที่จะอยู่ในโลก Open World ที่มีพื้นที่ใหญ่มาก ๆ ซึ่งในแต่ละดินแดนก็จะถูกแบ่งออกเป็น Zone อย่างชัดเจนที่จะกระจายกันอยู่ตามแผนที่ แต่ในเรื่องของการเดินทางนั้นก็ไม่ได้เสียเวลานานอย่างที่ใครหลาย ๆ คนกังวล เพราะการเดินทางข้าม Zone สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงผู้เล่นแชร์ตำแหน่งให้กันก็สามารถไปหากันได้แล้ว อีกทั้ง Event ต่าง ๆ ภายในเกมที่ผู้เล่นสามารถเลือกทำได้อย่างอิสระ ทั้งการจัดการ Monster รวมไปถึงการบุกยึดปราสาทของผู้เล่นคนอื่น ๆ ก็ทำได้เช่นกัน ซึ่งเกมนี้เองก็จะมีระบบ Upgrade ที่ผู้เล่นจะต้องเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนากำแพงป้องกัน , ศูนย์บัญชาการ , การสร้างโรงอาวุธ ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้ปราสาทแข็งแกร่ง ยากต่อการถูกโจมตี อีกทั้งยังได้ค่า Status อีกด้วย

ตัวเกมมีอะไรให้ทำเยอะมาก

ในเรื่องของการต่อสู้ภายในเกมก็จะมีหลายโหมดให้ผู้เล่นได้เลือกเล่น ไม่ว่าจะเป็น Story Mode ที่เน้นการเล่นแบบ RPG ทำ Quest ตามเนื้อเรื่องของเกมไปเรื่อย ๆ รวมไปถึงการฟาร์มหาทรัพยากรต่าง ๆ อีกด้วย , Arena Mode ที่จะเป็นการต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่น ๆ ที่ผู้เล่นจะต้องไปโจมตีปราสาทของคนอื่น รวมถึงป้องกันปราสาทของเราจากการถูกโจมตีอีกด้วย , Battle Royale Mode ที่เป็นการต่อสู้กันของผู้เล่น 20 คน ที่ผู้เล่นจะต้องอยู่รอดเป็นคนสุดท้ายให้ได้

ให้คะแนน 8 / 10 คะแนน เพราะ นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งภายในเกมเท่านั้น ซึ่งตัวเกมจริง ๆ ก็มีระบบอื่น ๆ รวมไปถึงโหมดการเล่นอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบ ที่จะมีพร้อมกับแผนที่ Open World ของใหญ่ และ Gameplay ที่ครบเครื่อง ซึ่งก็ทำให้ผู้เล่นเพลิดเพลินได้ไม่น้อยเลยครับ