รีวิว Horizon Forbidden West ภาคต่อของการผจญภัยในดินแดนต้องห้าม

Horizon Forbidden West เกมที่อิงเรื่องราวจาก Horizon Zero Dawn ระยะเวลา 5 ปีเต็ม กับเกม Advenger ที่ต้องสวมบทบาทเป็นหญิงแกร่งต่อสู้กับสัตว์จักรกล ที่แฟนเกมของเกมนี้ยังคงนึกถึงโลกอนาคตที่สวยงามแต่เต็มไปด้วยอันตราย  และในวันนี้ความสนุกในดินแดนสุดอันตรายที่ทุกคนเฝ้ารอคอยได้กลับมาแล้ว เวอร์ชั่นนี้จะมีความแตกต่างมากน้อยเพียงใด เราจะพาไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันเลยใน รีวิวเกมส์ วันนี้

Horizon Forbidden West กับความคุ้มค่าที่ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวัง

เป็นเรื่องราวที่สืบเนื่องจาก Horizon Zero Dawn หลังจากที่ Aloy สตรีผู้กล้าที่ได้ถูกการยอมรับจากการต่อสู้ของเธอในอดีต แต่มาในวันนี้มีเหตุการณ์บางอย่างที่ทำให้เธอต้องออกไปผจญภัยและสานต่อมันอีกครั้ง หนึ่งในนั้นคือเหตุการณ์การแพร่พันธุ์ของเชื้อโรคสุดสยดสยองจากต้นไม้ในดินแดนที่เธออาศัยอยู่ ได้แห้งตายลงอย่างรวดเร็ว รวมทั้งสัตว์น้อยใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อโรคเหล่านี้ เธอจึงต้องไขปริศนาและค้นหาคำตอบว่าอะไรกันแน่ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์อันเลวร้ายเหล่านี้

รูปแบบของเกม ยังคงความเป็นเค้าโคร่งเดิมไว้อยู่บ้าง คือสถานที่ที่ดำเนินเรื่องจะเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาที่ล่มสลายแต่จะถูกปกคลุมด้วยธรรมชาติ แต่ภาคนี้ความเป็นธรรมชาติและความหลากหลายของต้นไม้หลายสายพันธุ์จะมีมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้ฉากในเกมมีความเขียวขจี สดชื่น มีสถานที่ให้เราสำรวจเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว รวมไปถึงสัตว์จักรกลที่มีในภาคแรกก็จะเพิ่มขึ้นจากภาคนี้นับสิบ ยี่สิบตัว แน่นอนว่าสัตว์เหล่านี้มีเทคนิคการต่อสู้และโจมตีที่ไม่เหมือนกัน โดยจะมีอุปกรณ์ที่คอยตรวจสอบจุดอ่อน ที่เราต้องใช้ในการสังเกตพฤติกรรมกรรมของสัตว์เหล่านี้ได้ บางชนิดสามารถเสียบก้นและนำมาใช้เป็นยานพาหนะได้เลย

ความสัมพันธ์ของตัวละครหลัก หรือ Aloy กับผู้คนโดยรอบในเวอร์ชั่นนี้ จะมีท่าทีที่เป็นมิตรมากขึ้น เพราะเธอไม่ได้ถูกตราหน้าว่าเป็นคนนอกคอกอีกต่อไป นอกเหนือจากนี้ยังมีการนำชนเผ่าอื่น ๆ เข้ามาไว้ในเกม ที่ต้องสังเกตให้ดีว่าชนเผ่าเหล่านี้จะเป็นมิตรหรือศัตรู การสนทนากับผู้คนหรือชนเผ่าต่าง ๆ สามารถสร้างประสบการณ์ที่เป็นเฉพาะตัวของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี สำหรับใครที่ไม่เคยเล่นในภาคเดิมมาก่อน ขอให้ไปศึกษาตัวละครตัวละตัวให้ดี เพราะการเล่าเรื่องในเกมอิงมาจากตัวเดิมทั้งสิ้น อีกทั้งคุณจะไม่รู้เลยว่าตัวละครพูดถึงใคร ตัวไหน จะทำให้การเล่นของคุณเกิดความสับสนได้

ระบบเกมเพลย์ ระบบของการเล่นเกมในเวอร์ชั่นนี้ไม่ได้มีอะไรที่ต่างจากเดิม ผู้เล่นที่เคยเล่นภาคก่อนก็สามารถเล่นในภาคนี้ได้อย่างสบาย ๆ แผงของการเลือกอาวุธในการต่อสู้ก็เพิ่มขึ้นจาก 4 ช่องเป็น 5 ช่อง อีกทั้งยังเพิ่มการคราฟไอเทม เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้เล่นด้วยเมนูลัดด้านล่างฝั่งซ้าย รวมถึงการเพิ่มระบบ Skill Tree ที่ให้เราเลือกอัพเกรดความสามารถต่าง ๆ การเคลื่อนไหวของเราสามารถเคลื่อนไหวได้มากขึ้นกว่าภาคก่อน เช่น การดำน้ำในภาคก่อน เราอาจจะดำเพื่อหลบหนีศัตรู แต่ในเวอร์ชั่นนี้เมื่อเราดำลงไปเราจะได้เห็นโลกใต้น้ำ ที่มีสัตว์น้ำ ปะการัง ฯลฯ และยังมีอื่น ๆ อีกมากมาย รวมไปถึงเครื่องร่อนที่ในเวอร์ชั่นนี้ก็มีให้คุณได้ใช้แล้ว

ภาพกราฟฟิก ที่คมกริบ ชัดแจ๋ว เสมือนตัวคุณลงไปเล่นเอง ต่อให้ลงเล่นในโหมด performance ที่ลดประสิทธิภาพของภาพกราฟฟิก ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ภาพในเกมยังคงสวยงามเหมือนเดิม นอกเหนือจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น DualSense ที่เมื่อคุณจับสายของธนูคุณจะได้สัมผัสกับความเสมือนจริงที่น้อยจะมีในเกมยุคนี้

และนี้ก็คือทั้งหมดของเกมในเวอร์ชั่นนี้ โดยรวมถือว่าทำออกมาได้ดีไม่แพ้เวอร์ชั่นแรก การเพิ่มรายละเอียด รวมไปถึงลูกเล่นต่าง ๆ ในเกมก็ทำออกมาได้อย่างน่าชื่นชม อีกทั้งเกมนี้ยังสนับสนุกการใช้ภาษาไทยทำให้เล่นง่าย บทสนทนาในเกมที่แทนตัวเองและคนอื่น ๆว่า ข้า-เจ้า ซึ่งก็คือภาษาที่ใช้กันในยุคสมัยก่อน แต่ก็อาจจะมีบางคำที่ตกหล่นไปบ้าง แต่ก็ถือว่าให้อภัยกันได้