รีวิวเกม Halo Infinite

จากที่รีวิวเกมมาคำว่า Infinite คงจะเป็นคำที่เหมาะที่สุดสำหรับเกม Exclusive เกมแรกจาก Xbox ที่จะทำให้หลาย ๆ คนรู้จักกับ Microsoft ในวงการเกมมากขึ้น ที่ในภาคล่าสุดนี้ก็ได้กลับมาจัดเต็มทั้ง Mode Single Player และ Multiplayer ระบบการเล่นที่สนุก สะใจ เครื่องมือที่หลากหลาย ก็ต้องมาดูกันว่า Halo Infinite จะสามารถตอบโจทย์แฟน ๆ ได้ดีแค่ไหนในรีวิวเกมนี้กันเลย

สามารถเล่นได้บนแพลตฟอร์ม Xbox และ PC เท่านั้น

ราคา 1899 บาท

Halo Infinite : สุดยอดเกม FPS ยอดเยี่ยมแห่งปี

Story & Game Design : เนื้อเรื่องและรูปแบบของเกม

เรื่องราวภายในเกมจะต่อเนื่องมาจากภาคที่แล้วอย่าง Halo 5 ตั้งแต่ปี 2015 ที่พวกเขาถูกโจมตีโดยกองกำลังโดยต้องล่องลอยอยู่บนอวกาศ และเมื่อรอดกลับมาได้ก็จะต้องตามหาอาวุธเพื่อที่จะกลับไปกอบกู้จักรวาลอีกครั้ง รวมไปถึงต้องไขปริศนาการหายไปของ AI เรื่องราวในภาคนี้ถือเป็นการนำเสนอหลาย ๆ ส่วนออกมาได้อย่างดี ยอดเยี่ยม ทั้งภาพรวมและเรื่องราวส่วนบุคคลที่จะช่วยให้ผู้เล่นรู้สึกใกล้ชิดกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ภายในเกมมากขึ้น ที่จะมีการเพิ่มตัวละครใหม่ ๆ เพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วย

Gameplay : ระบบภายในเกม

รูปแบบ Gameplay หลัก ๆ ของ Halo ก็คือการต่อสู้ที่สนุก สะใจ และในภาคนี้เองก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งภาคที่ทำจุดนี้ออกมาได้ดีเหมือนเดิม จะเรียกได้ว่าดีที่สุดของ Series เลยก็ว่าได้ การเคลื่อนไหวที่ลื่นไหล ความหลากหลายของอาวุธ การยิงของปืนแต่ละกระบอก ศัตรูเองก็มี AI ที่ยอดเยี่ยม ทำให้รู้สึกท้าทายแบบสมจริง ผู้เล่นยังต้องวางแผนการใช้กระสุนให้ดี และต้องตัดสินใจว่าเมื่อไหร่จะต้องออกลุย เมื่อไหร่ควรจะป้องกัน อุปกรณ์ที่โดดเด่นในภาคนี้นั้นคงหนีไม่พ้น Grappling Hook หรือตะขอเกี่ยว ที่จะช่วยเปลี่ยนทุก ๆ อย่างขอ Halo ไม่ว่าจะเป็นสิ่งกีดขวางที่เป็นอุปสรรคก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป ทั้งการโหนไปยังฐานศัตรู หรือแม้แต่ขโมยยานพาหนะของศัตรูก็สามารถทำได้เช่นกัน

Presentation : การนำเสนอภายในเกม

หากจะหาจุดสังเกต สิ่งที่น่าผิดหวังที่สุดใน Halo ภาคนี้ก็น่าจะเป็นงานภาพ ที่แม้ว่ากราฟิกต่าง ๆ จะทำออกมาได้สวยงาม ละเอียด ทุกสิ่งทุกอย่างที่ลื่นไหล Effect สุดอลังการ เข้ากันกับงานด้านเสียง และ Audio Soundtrack ที่สุดยอด แต่ในเรื่องของ Art Style กลับดูไม่หลากหลายเท่าที่ควร ที่จะมีแค่ภูเขา ป่า และโครงสร้างที่คล้าย ๆ กันเท่านั้น ซึ่งก็เป็นอะไรที่น่าเสียดายในโลก Open World ที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ตัวเกมก็ยังคงมีปัญหาด้านเทคนิคให้เห็นอยู่บ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ทั้งในด้านการแสดงผล และ FPS ที่กระตุก แต่โดยรวมก็ยังคงให้ประสบการณ์ที่ดีได้อยู่

ให้คะแนน 9 / 10 คะแนน เพราะ ถือเป็นการรอคอยที่คุ้มค่า ทั้งความตั้งใจของทีมงาน และการรับฟังความคิดเห็นของผู้เล่นแล้วนำกลับไปปรับปรุง ก็ทำให้เกมนี้สามารถตอบโจทย์ได้ดี ไม่ว่าจะเป็น Single Player หรือ Multiplayer นั่นเอง