Dungeon Encounter เกมตะลุยดันเจี้ยนที่มาในรูปแบบบอร์ดเกม ที่ต้องใช้กลยุทธ์ในการเล่นมากกว่าเกมตะลุยดันเจี้ยนทั่วไป แถมยังต้องต่อสู้กับศัตรูแนว Turn-based อีกด้วย อีกหนึ่งเกมที่มีความน่าสนใจมาก ๆ รูปแบบเกมที่ไม่ค่อยเห็นกันเท่าไหร่นัก และสำหรับเวอร์ชั่นนี้จะเป็นการรีวิวในเวอร์ชั่น Nintendo Switch รายละเอียดอื่น ๆ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น สามารถติดตามได้ในรีวิวเกมวันนี้ได้เลย
Dungeon Encounter เกมตะลุยดันเจี้ยน ที่มีทั้งบอร์ดเกมและการต่อสู้แนว Turn-based
ตัวละคร หากเราได้เริ่มเล่นเกมไปซักพัก จะสังเกตได้ว่าตัวละครในตอนแรกจะมีค่อนข้างเยอะ เพื่อให้เราได้เลือกใช้งาน แต่ก็จะมีตัวละครบางตัวที่มีอยู่ในฉากเกม แต่ไม่สามารถนำมาใช้งานได้ บางตัวจะระบุสถานะชัดเจนว่าอยู่ชั้นไหน ช่องใด และเราก็สามารถเดินไปที่ช่องนั้นเพื่อเลือกตัวละครนั้นมาเข้าทีมได้ หากถูกใจ แต่ถ้าหากมีตัวละครไหนที่ยังติดสถานะบางอย่างอยู่ ก็คงจะต้องรอให้สถานะนั้นหายไปก่อนถึงจะชวนเข้าทีมได้ เช่น ตัวละครตัวนั้นกำลังแข็งเป็นหิน เป็นต้น ตัวละครบางตัวติดสถานะ Ko ก็สามารถเลือกและพาเข้าทีมได้ทันที และสำหรับบางตัว ก็อาจจะขึ้นสถานะว่า Wandering นั้นก็หมายความว่าตัวละครเหล่านี้ไม่มีสถานะที่ชัดเจน ว่าอยู่จุดไหนหรือชั้นไหน ซึ่งถ้าหากว่าเราอยากได้ตัวละครสถานะนี้ ก็คงต้องหมั่นเปิดดูหน้าจอตัวละครบ่อย ๆ ว่าตัวละครที่เราต้องการสามารถเปลี่ยนเข้าทีมได้หรือไม่ ซึ่งก็เรียกว่าเดิน 1 ช่อง เปิด 1 ที่เลยทีเดียว
มอนสเตอร์ ศัตรูในเกมของเราจะมาในรูปแบบของมอนสเตอร์ที่มีรูปร่าง หน้าตา ความสามารถ ที่แตกต่างกันออกไป บางตัวมีค่า HP มาก บางตัวก็อาจจะไม่มีเกราะป้องกันอย่างใดอย่างหนึ่งเลย บางตัวสามารถสะท้อนเวทมนตร์ทำให้เราสามารถโจมตีพวกมันโดยใช้เวทมนตร์ได้ บางตัวทำให้เรากลายเป็นหิน และยังมีมอนสเตอร์ความสามารถอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ให้ผู้เล่นต้องศึกษาเพิ่มเติม เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความท้าทาย ที่ทำให้เกมนี้ดูไม่น่าเบื่อเลย
ดันเจี้ยนแบบบอร์ดเกม การผจญภัยสำรวจดันเจี้ยนในเกมนี้ จะมาในรูปแบบของบอร์ดเกม ที่เราจะได้สำรวจสถานที่ต่าง ๆ ในแบบช่องตาราง ที่เรียงต่อกันไปเรื่อย ๆ และในบางช่องก็จะมีตัวเลขกำหนดอยู่ แต่ช่องที่น่าสนใจจะถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบหลัก ๆ ได้แก่ ช่องที่มีตัวเลขและตัวอักษรสีขาว ซึ่งแต่ละช่องจะมีความหมายแตกต่างกัน เช่น 01 ลงไปชั้นต่อไป02 ขึ้นไปชั้นก่อนหน้า, 03 จัดการ Ability บางช่องยังมีไอเทมหรือปริศนาบางอย่างที่สามารถพาเราไปรับของรางวัลพิเศษต่าง ๆ ได้ด้วย ซึ่งช่องเหล่านี้เราจะต้องกดปุ่มตอบรับเสียก่อนจึงจะสามารถใช้งานช่องนี้ได้
ช่องถัดไปคือ ตัวเลขและตัวอักษรสีดำ ช่องเหล่านี้คือช่องการเดินที่อันตราย เพราะจะแฝงไปด้วยศัตรู และโดยปกติเราจะไม่สามารถมองเห็นช่องเหล่านี้ได้เหมือนช่องสีขาว แต่ถ้าหากเราอยากเห็นก็สามารถตั้งค่า โดยกดไปที่ Fiend Scouting ช่องเหล่านี้ก็จะปรากฏ การตะลุยดันเจี้ยนของเกมนี้ค่อนข้างให้อิสระแก่ผู้เล่นพอสมควร เราไม่จำเป็นต้องเดินให้ครบทุกช่อง แต่ถ้าสมมติว่าเราเดินครบทุก ๆ ช่อง ก็จะได้รับแต้มความสามารถพิเศษไปใช้งาน
เกมเพลย์แนว Turn-based อีกองค์ประกอบหนึ่งที่ต้องพูดถึง ก็คือการต่อสู้ภายในเกม ที่เราต้องใช้การวางแผนเป็นอย่างมาก เนื่องจากตัวเกมถูกสร้างมาให้อยู่ในรูปแบบบอร์ดเกม ซึ่งจะแตกต่างกับการตะลุยดันเจี้ยนทั่วไป ตัวละครแต่ละตัวจะมีเกจแอ๊คชั่นที่จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ ซึ่งความเร็วในการเพิ่มเกจจะขึ้นอยู่กับความเร็วของตัวละครแต่ละตัว ยิ่งตัวละครมีความเร็วมาก ก็ยิ่งจะทำให้ออกแอ๊คชั่นต่าง ๆ ได้มาก เราจะไม่สามารถโจมตีเข้าค่า HP ของศัตรูได้โดยตรง แต่ศัตรูสามารถโจมตีค่า HP ของเราได้ หากเราอยากโจมตีเข้าค่า HP ของศัตรูก็สามารถทำได้โดยโจมตีไปที่เกราะ ซึ่งเกราะที่ว่านี้จะแยกออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ เกาะป้องกันทางกายภาพ และเกาะป้องกันทางเวทมนตร์ เราจะต้องโจมตีเกราะเหล่านี้ให้แตก จึงจะสามารถโจมตีเข้าค่า HP ของศัตรูได้
ภาพรวมของเกม เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่ขายไอเดีย ไม่น้อยเลยทีเดียว อีกทั้งรูปแบบการเล่นยังผสมผสานหลาย ๆ เกมเข้าไป ทำให้การเล่นถูกทำออกมาได้แหวกแนวเอามาก ๆ ทั้งการตะลุยดั้นเจี้ยนแบบบอร์ดเกม ที่จะต้องมาพร้อมกับการต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์แบบเกมแนว Turn-based และก็ทำออกมาได้ดีมาก ๆ ด้วย ใครที่ได้ลองเล่นต้องถูกดูดเวลาไปไม่น้อยเลย ตัวเกมรองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ แต่รูปแบบการเล่นก็ทำออกมาได้ไม่ยาก อ่านจากรีวิวของเราก็สามารถทำความเข้าใจได้เองแล้ว อีกหนึ่งเกมน่าลอง ที่อยากให้ทุกคนไปลองเล่นกันดู
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์