รีวิวเกม Cotton Rock and Roll

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกมยอดฮิตที่นำกลับมาทำใหม่อีกครั้งเลยก็ว่าได้ ที่ยังคงมารูปแบบ Gameplay ที่ไม่ต่างไปจากเดิมนัก ซึ่งก็เป็นอะไรที่น่าสนใจ อีกทั้งยังมีการยกระดับของกราฟิกขึ้นอีก โดยล่าสุดเกมอย่าง Cotton Rock and Roll ก็เป็นภาคล่าสุดของ Series แต่ก็ต้องมาดูกันว่าในการกลับมาครั้งนี้จะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง ไปติดตามพร้อมกันในรีวิวเกมนี้กันเลย

สามารถเล่นได้บนแพลตฟอร์ม PlayStation , Nintendo Switch และ PC เท่านั้น

ราคา 2260 บาท

Cotton Rock and Roll : ภาคต่อของเกมแม่มดตะลุยอวกาศ

Game About : รายละเอียดต่าง ๆ ภายในเกม

ในภาคล่าสุดของ Cotton นี้จะยังคงใช้ Concept เกมแบบเดิมอยู่ ที่จะเป็นเกมแนวยานยิงแบบ 2D ซึ่งก็เป็นอะไรที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยอยู่แล้วตั้งแต่สมัย Console ในอดีต ซึ่งเกมนี้เองก็ถูกนำกลับมา Remaster อยู่หลายครั้ง และล่าสุดนี้การกลับมาของเกมก็ถือว่าทำออกมาได้ตามมาตฐานอยู่ อีกทั้งยังเรียกกระแสเกมแนวนี้กลับมาอีกครั้งได้ด้วย แต่ในส่วนของกราฟิกนั้นก็ถือว่าพัฒนาขึ้นจากภาคที่ผ่านมา ที่จะมีฉากหลังที่คมชัด มีมิติมากขึ้น แต่หากเทียบกับเกมอื่น ๆ แล้วก็ยังคงดูเชยเกินไปอยู่ ที่จะเป็นแนว 2D อีกทั้งยังผสมผสานเข้ากับ Sound ที่ยังคงสนุกอยู่ตลอดการเล่น ทำให้ผู้เล่นได้อารมณ์ที่ไม่เบื่อตลอดการเล่นเลย

Gameplay : ระบบภายในเกม

ในภาคนี้ก็จะมีฉากหลัง หรือ Setting ต่าง ๆ อยู่ในอวกาศ ที่จะมี Gameplay ที่ไม่ต่างไปจากเดิมเลย โดยจะเป็นเกมแนว Action Shooting 2D ที่มีการเล่นแบบมุมมองด้านข้าง ที่จะมีจุดเด่นอยู่ที่ตัวละครของผู้เล่นจะใช้ไม้กวาดเป็นยานพาหนะในการผจญภัย ที่ระหว่างการเดินทางก็จะได้ต่อสู้กับศัตรูมากมายนับไม่ถ้วน อีกทั้งยังต้องคอยหลบกระสุนที่ศัตรูยิงมา ที่ผู้เล่นสามารถเลือกระดับความยากง่ายภายในเกมได้ ซึ่งแต่ละระดับก็จะถูกแบ่งออกชัดเจนที่ระดับความท้าทายจะต่างกันออกไป และในภาคนี้บอสในแต่ละด่านก็ถูก Design ออกมาได้โดดเด่นมาก ๆ อีกทั้งยังมีการพัฒนาความสามารถที่เก่งขึ้นอีกด้วย โดยมันทำให้ผู้เล่นจะต้องจับจังหวะการโจมตีแล้วหลบกระสุน เพื่อที่จะหาทางยิงกลับไปนั่นเอง

ระบบอาวุธต่าง ๆ ภายในเกม

ในส่วนของการโจมตีของภาคนี้นั้นจากที่รีวิวเกมนี้มาก็มีหลายรูปแบบพอสมควรเลย ที่ผู้เล่นจะมีความสามารถใหม่ ๆ ได้จากการจัดการกับศัตรู อีกทั้งยังสามารถใช้ Skill ได้อีกด้วยไม่ว่าจะเป็นการใช้สายฟ้า หรือจะใช้เกราะพายุที่มาป้องกันการโจมตีของศัตรูได้อีกด้วย รวมไปถึงท่าไม้ตายที่ใช้ระเบิดศัตรูทั้งฉากได้จากการโจมตีเพียงครั้งเดียวอีกด้วย แต่โดยรวมแล้วก็ยังดูน้อยเกินไป อีกทั้ง Mode การเล่นอื่น ๆ ภายในเกมก็ยังคงน้อยเกินไปอยู่

ให้คะแนน 7.5 / 10 คะแนน เพราะ ก็เป็นอีกหนึ่งเกมเก่าที่นำมา Remaster ใหม่ ที่มีการยกระดับของกราฟิกขึ้น แต่ก็ยังเหมาะกับกลุ่มเกมเมอร์บางประเภทเท่านั้น ที่รูปแบบ Gameplay ยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อีกทั้งสิ่งน่าสนใจภายในเกมก็ยังคงดูน้อยเกินไป