Call of Duty:Warzone ทำให้ Fennec มีพลังที่มากเกินไป

Call of Duty:Warzone ซีซั่นที่ 5 และดูเหมือนว่าจะมาพร้อมกับอาการสะอึกพอสมควร แม้ว่าการอัปเดตล่าสุดของเกมยิงยอดนิยมจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงเพลย์ลิสต์ที่น่าตื่นเต้น Battle Pass ใหม่ และอีกมากมาย แต่ก็ยังมีผู้ที่ไม่พอใจกับ Season 5 ของ Call of Duty: Warzone โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปืนที่แฟน ๆ ชื่นชอบจำนวนมากได้รับการปรับแต่งในแบบที่ผู้เล่นไม่ถนัด อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอย่างหนึ่งของ Fennec SMG ใน Warzone ดูเหมือนจะเป็นข้อบกพร่อง และทำให้ปืนมีกำลังแรงเล็กน้อย

Call of Duty:Warzone ดูเหมือนจะมีบางอย่างที่ผิดพลาดในการอัพเดทครั้งนี้

อาวุธจำนวนมากได้รับการ nerfed และ buffed ใน Call of Duty: Warzone ด้วยการอัปเดต Season 5 ในกรณีของ Fennec SMG อาวุธระยะประชิดมีความเร็วกระสุนเพิ่มขึ้น 13.4% ความหวังคือปืนจะใช้งานได้โดยรวมดีขึ้นเล็กน้อย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะต่อไป อย่างไรก็ตาม ในการทดสอบอาวุธ ผู้เล่นตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่า Raven Software อาจเพิ่มความเร็วกระสุนโดยไม่ได้ตั้งใจเป็นเปอร์เซ็นต์ที่มากกว่านั้น

แทนที่จะเพิ่มความเร็วเล็กน้อยหลังจากอัปเดต Season 5 เป็น Call of Duty: Warzone แล้ว Fennec SMG ก็รู้สึกเหมือนเป็นอาวุธฮิตสแกน เมื่อใช้ hitscan จะไม่มีกระสุนหล่นและไม่จำเป็นต้องมี “การนำ” เนื่องจากไม่มีกระสุนแบบโพรเจกไทล์ ในทางกลับกัน อาวุธจะโจมตีเป้าหมายทันทีที่เหนี่ยวไก Hitscan ในบางวิธีหมายความว่ากระสุน “เดินทางข้ามเวลา” ไปยังเป้าหมายทันที อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่า Fennec SMG ได้รับพลังการสแกนอย่างกะทันหันและกลายเป็น SMG ที่ดีที่สุดใน Warzone แต่มีโอกาสมากกว่าที่ Raven Software จะเพิ่มความเร็วกระสุนให้สูงกว่าที่ตั้งใจไว้มาก

ผู้ใช้ YouTube Call of Duty ยอดนิยม JGOD อัปโหลดวิดีโอที่แสดงความสามารถใหม่ที่ได้รับจาก Fennec SMG และอธิบายข้อมูลบางส่วนเบื้องหลัง พร้อมกับทฤษฎีของเขาเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น แทนที่จะคูณความเร็วปัจจุบันของ Fennec ด้วย 13.40% เป็นไปได้ที่ Raven Software จะคูณมันด้วย 1340% แทน สิ่งนี้จะอธิบายได้ว่าทำไม Fennec จึงเป็นปืนเลเซอร์ในทันใดในแง่ของความเร็วของกระสุนที่ได้รับจากกระบอกปืนไปยังเป้าหมาย

ตัวปืนเองก็สามารถใช้งานได้มากขึ้นในสถานะนี้ อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่อาวุธทำลายล้างที่ทรงพลังเช่นกัน Fennec ยังคงไม่แม่นยำในระยะ เจาะกระสุนอย่างรวดเร็ว และรับกระสุนจำนวนมากก่อนที่จะจัดการศัตรู อย่างไรก็ตาม Raven Software จะต้องแก้ไขความผิดพลาดนี้และแก้ไข Fennec ก่อนการอัปเดต Call of Duty: Vanguard และ Warzone ครั้งใหญ่ที่เพิ่งประกาศออกมา

ความต้องการของระบบในการเล่นเกม

ขั้นต่ำ
 

• OS: Windows 7 64-Bit (SP1) หรือ Windows 10 64-Bit
  
• CPU: Intel Core i3-4340 หรือ AMD FX-6300
  
• RAM: 8GB RAM
  
• HDD: 175GB
  
• Video: NVIDIA GeForce GTX 670 / GeForce GTX 1650 หรือ Radeon HD 7950
  
• DirectX: DirectX 12

ขั้นแนะนำ

• OS: Windows 10 64 Bit
  
• CPU: Intel Core i5-2500K หรือ AMD Ryzen R5 1600X processor
  
• RAM: 12GB RAM
  
• HDD: 175GB
  
• Video: NVIDIA GeForce GTX 970 / GTX 1660 หรือ Radeon R9 390 / AMD RX 580
  
• DirectX: Requires DirectX 12

Call of Duty: Warzone วางจำหน่ายแล้วสำหรับ PC, PS4, PS5, Xbox One และ Xbox Series X/S