รีวิวเกม Atelier Sophie 2 The Alchemist of the Mysterious Dream การเดินทางที่แสนอบอุ่น

สำหรับใน Series Atelier คืออีกหนึ่งเกม JRPG ที่มีการพัฒนาตัวเองมาโดยตลอด และยังสามารถเพิ่มฐานผู้เล่นได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งตัวละครใหม่ ๆ ระบบการต่อสู้ ระบบปรุงยา และใน Atelier Sophie 2 The Alchemist ทีมงานก็ได้ตัดสินใจนำตัวละครเดิมจากในภาคแรกกลับมาอีกครั้ง เพื่อสานต่อเรื่องราวการผจญภัย ก็มาดูกันว่าการกลับมาในครั้งนี้จะทำได้ดีมากแค่ไหน ติดตามกันในรีวิวเกมนี้กันเลยครับ

สามารถเล่นได้บนแพลตฟอร์ม PlayStation , Nintendo Switch และ PC เท่านั้น

ราคา 2056 บนร้านค้า Steam

Atelier Sophie 2 The Alchemist of the Mysterious Dream : การเดินทางที่แสนอบอุ่น

Game About : รายละเอียดต่าง ๆ ภายในเกม

แม้ว่าจะยังคงรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป แต่ในภาคนี้ก็ยังคงดึงผู้เล่นไปยังการผจญภัยสุด Classic และมิตรภาพ ผสมกับธีมที่เต็มไปด้วยอารมณ์มากมายได้อย่างไม่น่าเชื่อ แน่นอนว่าตัวละครหลักในภาคนี้ก็ยังคงเป็น Sophies และอาจารย์สอนเล่นแร่แปรธาตุของเธอ ที่เธอทั้ง 2 ก็ถูกพลังลึกลับบางอย่างดึงเข้ามายังโลกแห่งความฝัน  แต่เมื่อ Sophies ตื่นขึ้นมาก็พบว่าอาจารย์ของเธอหายไป และเมื่อออกตามหาเธอก็ได้พบกับอาจารย์อีกคนที่ไม่ใช่เพื่อนที่เธอรู้จัก เธอทั้ง 2 คนจึงต้องสืบหาที่มาที่ไปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยตัวเกมจะมีการนำเสนอเรื่องราวหลักประมาณ 40 – 50 ชั่วโมงเลยทีเดียว

Gameplay : ระบบภายในเกม

ในส่วนของการต่อสู้นั้นจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อผู้เล่นสัมผัสกับ Monster โดยยังคงรูปแบบที่เป็นแนว Turn Based เลือกคำสั่งที่ถือว่ามีความแตกต่าง หลากหลายอยู่พอสมควร ที่จะทำให้ Combat หรือการต่อสู้ดูมีความน่าสนใจมากขึ้น ไม่ใช่ที่จะโจมตีอย่างเดียวเหมือนในทุก ๆ ครั้ง นอกจากนั้นผู้เล่นยังสามารถสลับสมาชิกในทีมมาช่วยลดทอนความเสียหายได้ โดยตัวเกมยังแสดงให้รู้อีกด้วยว่า สมาชิกในทีมคนไหนกำลังตกเป็นเป้าในการโจมตี สิ่งที่โดดเด่นที่สุดใน Gameplay ก็คือส่วนของการใช้ Skill ที่แต่ละ Skill จะมีอนิเมชั่นที่สวยงาม รวมไปถึงยังมี Skill ที่ใช้งานร่วมกันของตัวละคร ที่จะ Unlock ก็ต่อเมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ ที่เรียกได้ว่ามีความอลังการสุด ๆ นอกจากนั้น Skill เหล่านี้ยังถูกผูกเข้ากับธาตุต่าง ๆ ที่แน่นอนว่าจะต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม

Presentation : การนำเสนอภายในเกม

ในเรื่องของงานภาพในภาคนี้ถือว่าทำออกมาได้ตอบโจทย์ และมีการ Upgrade ขึ้นจากภาคที่ผ่าน ๆ มา โดยเฉพาะในส่วนของ Art Style ของตัวละครทั้งการออกแบบ การเลือกใช้โทนสีก็ดูมีความเป็นตัวเองสุด ๆ ไปจนถึงฉาก สภาพแวดล้อมต่าง ๆ ที่จะมีทั้งกลางวัน กลางคืน และถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นเกมที่มีความละเอียดลออ แต่รับรองได้เลยว่าแฟน ๆ จะไม่ผิดหวังแน่นอน และด้านของ Performance นั้นก็ถือว่าลื่นไหลสุด ๆ อีกด้วยครับ ที่จะมีความนิ่งในระดับ 30 FPS ตลอดทั้งเกม

ให้คะแนน 8.5 / 10 คะแนน เพราะ เกมนี้คืออีกหนึ่งผลงานที่อบอุ่นหัวใจ และให้อารมณ์การผจญภัยที่แฟน ๆ คิดถึง แม้ว่าจะเน้นไปที่ตัวละครกลุ่มใหม่ แต่ก็ยังสามารถร้อยเรียงกลับไปยังภาคแรกได้อย่างลงตัว ที่จะเต็มไปด้วยอารมณ์ต่าง ๆ ตลอดทั้งเกม