หลังจากเว้นช่วงจากภาคหลัก 2K20 ไปตั้งแต่ปี 2019 เนื่องจากผลงานย่ำแย่สุด ๆ ผ่านไป 3 ปีทีมงานก็ได้กลับคืนสู่สังเวียนผ้าใบอีกครั้ง รวมไปถึงยกเครื่อง Gameplay ครั้งใหญ่ ตั้งแต่ Engine ที่ใช้พัฒนา โดยคาดว่าน่าจะทำให้ปัญหาเดิม ๆ หายไป ก็ต้องมาดูกันว่า WWE 2K 22 หลังจากที่เก็บตัวหยุดวางจำหน่ายภาคใหม่ไปหลายปี Series นี้จะกลับมาทวงบัลลังก์สุดยอดเกมมวยปล้ำได้อีกครั้งหรือไม่ ก็ไปติดตามกันในรีวิวเกมนี้กันเลยครับ
สามารถเล่นได้บนแพลตฟอร์ม PlayStation , Xbox และ PC เท่านั้น
ราคา 1490 บาท บนร้านค้า Steam
WWE 2K 22 : การกลับมาของสุดยอดเกมมวยปล้ำ
Gameplay : ระบบการเล่นภายในเกม
เมื่อเริ่มเกมเข้ามาผู้เล่นจะถูกพาเข้าสู่ Match Tutorial ที่จะเป็นการสอน Basic มวยปล้ำ โดยเปลี่ยนจากการกด Combo ที่ซับซ้อนมาเป็นปุ่ม Action ที่เข้าใจง่าย อย่างการโจมตีเบา โจมตีหนัก และปุ่มจับ ที่สามารถกดเรียงลำดับ หรือ ผสมผสานกันได้เพื่อผลลัพธ์ที่แตกต่าง และการสวนกลับก็สามารถทำได้โดยการกดปุ่มโจมตีให้ตรงกับจังหวะที่ถูกจับ รวมไปถึงระบบพลังชีวิต และ Stamina ก็ถูกทำออกมาให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นเช่นกัน นอกจากนั้นยังมี Gate พิเศษ ที่หากผู้เล่นทำท่าต่าง ๆ ได้ต่อเนื่องจะเป็นการเติม Gate และเมื่อเต็มก็สามารถใช้ท่า Playback พิเศษ หรือปล่อยท่าไม้ตายของตัวละครได้ ซึ่งในปรับมาใช้ Gameplay แบบนี้ก็ถือว่าทำออกมาได้เข้าใจง่ายมากขึ้น
Game Mode : โหมดต่าง ๆ ภายในเกม
ในภาคนี้ไม่ได้มีเพียงการปรับเปลี่ยน Gameplay เท่านั้น แต่ยังอัดแน่นไปด้วย Content แบบที่เกมควรจะมี อย่างโหมดต่าง ๆ ให้เลือก ที่จะมีตั้งแต่การเล่นแบบมาตรฐาน 1 VS 1 , Royale Rumble ไปจนถึงการต่อสู้ในกรง บวกเข้ากับจำนวน Superstar นักมวยปล้ำจำนวนมหาศาล ที่รวมกันมากกว่า 160 คน เรียกได้ว่าแทบจะมีทุกอย่างที่แฟน ๆ อยากเห็นเลย แน่นอนว่าสิ่งที่เป็นจุดเด่นที่สุดในภาคนี้ก็คงเป็นการกลับมาของโหมด 2K Showcase ที่เป็นการกลับมาของ Ray Mysterio ที่จะเริ่มต้นชีวิตนักมวยปล้ำตั้งแต่เป็น Nobody จนได้มาเป็น Superstar ที่ยิ่งใหญ่ โดยเราจะได้เห็น Match ต่าง ๆ ที่สำคัญของ Ray อีกทั้งยังมีการสลับเข้ากับ Cut Scene ที่เป็นภาพจริงของ Match นั้น ๆ อีกด้วยครับ
Presentation : การนำเสนอภายในเกม
จุดสังเกตหลักของเกมคืองานด้านภาพ ที่แม้ว่าจะทำ Model ของตัวละคร และ หน้าตาของตัวละครออกมาได้ใช้ได้ แต่บางครั้ง อนิเมชันหน้าตาก็ยังดูตลก ๆ อยู่ รวมไปถึงรายละเอียดโดยรวมก็ยังไม่ถึงระดับของเกม Gen ใหม่ซะทีเดียว ส่วนในเรื่องของความลื่นไหลของตัวละครก็ถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียว สิ่งที่ทำได้ดีอีกอย่างคืองานด้านเสียง โดยเฉพาะ Sound Track ที่จะช่วยเพิ่มความเร้าใจในการต่อสู้มากขึ้นด้วย
ให้คะแนน 8 / 10 คะแนน เพราะ โดยรวมแล้วสิ่งที่เกมนี้นำเสนอแทบจะเรียกได้ว่าใส่ทุกอย่างที่ควรจะเป็นเพิ่มเข้ามา และยกเครื่องครั้งใหญ่จากภาคก่อนหน้าที่ล้มเหลวสุด ๆ ตั้งแต่ Gameplay ไปจนถึงการควบคุม ที่ทั้งให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และยังดูเหมาะกับความเป็นเกมมากกว่าเดิม
สนับสนุนโดย
UFABET | UFA365 | UFABET เข้าสู่ระบบ | UFABET เว็บตรง | สล็อต เว็บตรง | SLOTXO | สล็อต | PG SLOT | สล็อต XO | สล็อต | JOKER123 | สล็อต เว็บตรง | สล็อตโจ๊กเกอร์