รีวิวเกม SIFU

Rouge Like คืออีกหนึ่งแนวเกมที่หลายคนอาจจะไม่ค่อยชอบ ด้วยความยากเมื่อทุกครั้งที่ตายจะเหมือนเริ่มเกมใหม่ แต่เกมใหม่จากทีมงาน Sloclap เกมนี้คือแม้จะสร้างเกมขึ้นมาจาก Concept ของ Rouge Like แต่ตีความภาพรวมของเกมออกมาได้อย่างน่าสนใจมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอายุที่จะเพิ่มขึ้น และ Action สุดท้าทาย ก็มาดูกันว่าเกมอย่าง SIFU จะสามารถทำให้หลาย ๆ คนประทับใจได้มากน้อยแค่ไหน ก็มาติดตามในรีวิวเกมนี้พร้อม ๆ กันเลยครับ

สามารถเล่นได้บนแพลตฟอร์ม PlayStation และ PC เท่านั้น

ราคา 593 บาท บนร้านค้า Epic

SIFU : โคตรเกมกังฟูที่หลายคนยอมรับ

Game About : รายละเอียดต่าง ๆ ภายในเกม

แก่นของเรื่องราวภายในเกมนี้คือการล้างแค้น ที่พ่อของเราจะถูกฆ่าอย่างเลือดเย็น และทำให้เป้าหมายในชีวิตของเราคือการตามไล่ล่าทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งสิ่งที่ขวางทางเราก็คือแก๊งคู่อริ ที่จะมีทั้งลิ่วล้อมหาศาล และบอสสุดโหด แต่ก็โชคดีที่เราจะมีสร้อยคอประจำตระกูล ที่จะมีพลังวิเศษฟื้นคืนชีพได้หลังจากความตาย แต่ก็แลกมาด้วยพลังชีวิตของเรา ซึ่งพลังลึกลับนี้ก็ถูกร้อยเรียงเข้ากับเนื้อเรื่องและระบบของเกมได้อย่างลงตัว ผ่านไป 8 ปีของการฝึกฝน ผู้เล่นจะได้เลือกเพศของตัวละคร และออกผจญภัย การรวบรวมคำใบ้ และสำรวจพื้นที่คือกุญแจสำคัญในการดำเนินเนื้อเรื่องนั่นเองครับ

Gameplay : ระบบภายในเกม

นอกจากระบบ Rouge Like แล้วยังมีระบบการ Up Skill โดยเมื่อเราจัดการกับศัตรูได้ก็จะได้คะแนน ที่สามารถนำเอามาใช้หลังจากเราตาย เพื่อที่จะ Upgrade และเมื่อตัวละครเรามีคะแนนพอก็สามารถ Upgrade ตัวละครเราแบบถาวรได้ โดย Skill ในเกมนี้จะมีตั้งแต่การเพิ่ม Buff หรือ Combo เสริม ที่จะช่วยในการต่อสู้ โดยเฉพาะในด่านหลัง ๆ เช่น ผู้เล่นสามารถทำลาย Guard ของศัตรูด้วยท่าพิเศษ หรือการใช้สภาพแวดล้อมช่วยในการต่อสู้ ซึ่ง Animation ในเกมนี้ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว Style ของการต่อสู้ ก็สามารถทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ให้อารมณ์เหมือนหนัง Action กังฟู อีกทั้งการต่อสู้ในเกมนี้นั้นนอกจากจะทำออกมาได้สนุกแล้ว ยังเต็มไปด้วยความท้าทายมาก ๆ อีกด้วยครับ

Presentation : การนำเสนอภายในเกม

ถือว่าฉากต่าง ๆ ในเกมนี้ค่อนข้างหลากหลายเลย ที่จะมีตั้งแต่ร้านเหล้าในสลัม ห้องมืด ๆ แสงไฟนีออน ไปจนถึงโบราณสถานต่าง ๆ และยังทำให้การย้อนกลับมาเล่นใหม่ไม่น่าเบื่ออีกด้วย งานภาพภายในเกมถูกนำเสนอผ่าน Performance ที่ลื่นไหล ช่วยให้เกมดูต่อเนื่องมากขึ้น ผสมผสานเข้ากับเสียงเพลงที่ช่วยเปลี่ยน Momentum ต่าง ๆ ภายในเกมได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งจังหวะ Action ตึงเครียด และตื่นเต้น ซึ่งโดยรวมแล้วก็ถือว่าทำออกมาได้ดีไม่แพ้เกมในระดับ AAA เลย

ให้คะแนน 9 / 10 คะแนน เพราะ หากจะบอกว่าเกมนี้คือเกม Action ที่ไม่ควรพลาดในปีนี้ก็คงไม่ผิดอะไร ที่ไม่ได้มีแค่การต่อสู้ที่สนุก สะใจเท่านั้น แต่ยังอัดแน่นไปด้วยระบบ และเรื่องราวได้อย่างลงตัว แม้จะมีปัญหาด้านมุมกล้องอยู่บ้าง แต่ด้วยการควบคุมที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้เกมนี้ลงตัวมาก ๆ ครับ