รีวิวเกม Total War Warhammer II

หลังจากที่ในตัวเกมในภาคแรกนนั้นประสบความสำเร็จมาก ๆ ก็ทำให้ทีมงานผู้พัฒนาไม่รอช้า ได้นำภาคต่อของเกมปล่อยออกมาอย่างรวดเร็ว ที่จะมีการเพิ่มชื่อภาคลงไปด้วย ให้กลายเป็น Total War Warhammer II ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าทำไมภาคต่อออกมาเร็วจัง จะทำได้ดีหรือเปล่า ซึ่งวันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจนั้นกันครับ ไปติดตามกันเลย

สามารถเล่นได้บนแพลตฟอร์ม PC เท่านั้น

ราคา 999 บาท บนร้านค้า Steam

Total War Warhammer II : การกลับมาของสงครามที่ดุเดือดกว่าที่เคย

Game About : รายละเอียดต่าง ๆ ภายในเกม

อย่างแรกเลยที่ตัวเกมยังคงรักษามันไว้อยู่นั่นคือ การนำ Engine แบบเดิมมาใช้งาน ที่จะยังคงใช้รูปแบบการเล่นในแบบ Turn Based ผสมผสานเข้ากับ Real Time Tactical ได้อย่างลงตัว ซึ่งในภาคต่อนี้ผู้เล่นจะได้เล่นเรื่องราวต่อจากในภาคแรกเลย โดยจะมีการเพิ่มเผ่าพันธุ์เพิ่มเข้ามาอีก 4 เผ่า ไม่ว่าจะเป็น High Elves , Dark Elves , Lizardmen และ Skaven ซึ่งในภาคนี้เองก็จะมีฉากหลังเป็นทวีปต่าง ๆ ที่มีความกว้างมาก ๆ และที่ทำให้เกมนี้โดดเด่นเลยคือผู้เล่นจะสามารถเป็นศัตรูกับใครก็ได้ภายในเกม เช่นเดียวกันกับการหาพันธมิตร ซึ่งแต่ละเผ่าพันธุ์นั้นจะมีเอกลักษณ์ รวมไปถึง Skill การต่อสู้ที่แตกต่างกันออกไป โดยในส่วนนี้เราจะพูดกันในหัวข้อต่อไปกันครับ

Gameplay : ระบบภายในเกม

อย่างที่บอกไปในหัวข้อก่อนหน้านี้แล้วว่า แต่ละเผ่าพันธุ์นั้นจะมีการต่อสู้ที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น Dark Elves ที่จะมีจุดเด่นคือการจับเชลยของศัตรูมาเป็นพรรคพวก เพื่อที่จะใช้งานในการเข้าไปยึดปราสาท , Skaven ที่ดูเผิน ๆ เหมือนจะเป็นเผ่าที่อ่อนแอที่สุด แต่ก็เป็นเผ่าที่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วมาก ๆ ซึ่งแม้ว่าในภาค 2 นี้จะมีตัวเลือกน้อยกว่าในภาคแรก แต่ในด้านของ Gameplay นั้นก็รู้สึกว่าจะทำออกมาได้ละเอียดกว่า อีกทั้งการที่ผู้เล่นสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับเผ่าอื่น ๆ ได้ ซึ่งก็อาจจะมีทั้งผลลัพธ์ที่ทั้งดีและไม่ดี และแน่นอนว่าสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยคือ The Great Vortex ที่จะเป็นการยึดพื้นที่แห่งหนึ่ง เพื่อส่งคลื่นไปยังพลังลึกลับภายในเกม ที่จะมีผลต่อเผ่าต่าง ๆ ภายในทีมของเรา

Graphic : กราฟิกต่าง ๆ ภายในเกม

ถือว่าตั้งแต่ในภาคแรกจนมาถึงในภาคนี้ ก็จะนำเสนอกราฟิกที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ที่จะเน้นสงครามที่บู๊กระจาย รวมไปถึงสัตว์ต่าง ๆ ที่มาอยู่ในกองทัพนั้นก็มีการเก็บรายละเอียดมาค่อนข้างดี อีกทั้งยังสามารถรองรับการแสดงผลได้หลายระดับอีกด้วย และแน่นอนว่าตัวเกมมีความลื่นไหลมาก ๆ ครับในระดับ 60 FPS เลยก็ว่าได้ครับ ที่จะให้อารมณ์เหมือนกำลังดูภาพยนตร์ไม่มีผิด

ให้คะแนน 8 / 10 คะแนน เพราะ จากที่รีวิวเกมนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมภาคต่อที่ยังคงทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งสำหรับในราคา 900 กว่าบาทนั้นก็ถือว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่ามาก ๆ ครับ และแน่นอนว่ามันต้องคุ้มค่าแน่นอน ไม่ผิดหวังแน่นอนว่าครับ