รีวิวเกม Shovel Knight Pocket Dungeon

ถือว่าเป็นการประสบความสำเร็จในหลาย ๆ ด้านเลยก็ว่าได้สำหรับ Series เกมอย่าง Shovel Knight ที่จะมี Action ที่โดดเด่น อีกทั้งสามารถเล่นได้เพลิน ๆ อีก ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้ตัวเกมก็ได้มีการผสมผสานเกมแนว Puzzle เข้าไปด้วย และใช้ชื่อเกมว่า Shovel Knight Pocket Dungeon ที่ถือว่าเปลี่ยนแนวเกมของเกมไปเลยก็ว่าได้ แต่จะเป็นยังไงนั้นก็ไปติดตามกันในรีวิวเกมนี้กันเลย

สามารถเล่นได้บนแพลตฟอร์ม Android และ iOS เท่านั้น

เกมฟรี

Shovel Knight Pocket Dungeon : การผสมผสานที่สนุกเกินคาด

Game About : รายละเอียดต่าง ๆ ภายในเกม

มาเริ่มกันที่ภายรวมภายในเกมกันก่อนเลย เกมนี้จะเป็นเกมมือถือที่เป็นการผสมผสานระหว่างเกมแนว Action กับเกมแนว Puzzle เข้าด้วยกัน ซึ่งก็จะมีเนื้อเรื่องให้ผู้เล่นได้ติดตามอยู่พอสมควรเลย เริ่มจาก อัศวินที่เป็นตัวละครหลักขาก Shovel Knight ได้หลุดเข้าไปในมิติที่เต็มไปด้วยลูกบาศก์มากมาย ที่เขาจะได้เจอกับตัวละครต่าง ๆ ที่คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี ซึ่งผู้เล่นจะต้องหาทางจัดการกับ Puzzle เพื่อหาทางกลับมายังโลกปัจจุบันให้ได้นั่นเอง ซึ่งระหว่างทางก็จะเต็มไปด้วยสิ่งแปลก ๆ มากมาย รวมไปถึงอุปสรรคต่าง ๆ ที่จะมาขวางผู้เล่นเอาไว้

Gameplay : ระบบภายในเกม

อย่างที่บอกไปแล้วว่าเกมนี้จะเป็นการนำเกมแนว Action กับเกมแนว Puzzle ที่คล้าย ๆ กับเกมอย่าง Tetris มาผสมผสานเข้าด้วยกัน ซึ่ง Gameplay ของตัวเกมก็เข้าใจง่ายมาก ๆ เพียงแค่ผู้เล่นต้องเรียงสิ่งของที่ตกลงมาให้เป็นแนวเดียวกันจนเต็มแถว ก่อนที่มันจะสูงขึ้นไปจนเต็มฉาก ไม่งั้นก็คือ Game Over ทันที แต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะตัวเกมจะให้ผู้เล่นได้ควบคุมแค่ อัศวินที่เป็นตัวละครหลักของเรา เพื่อเดินไปตามฉากแล้วจัดการให้ศัตรูหายไป เพื่อเป็นเหมือนการเปิดทางให้ Block แต่ละอันนั้นหล่นลงมา ซึ่งความท้าทายมันก็อยู่ตรงที่ศัตรูจะมีการตอบโต้ผู้เล่นได้เช่นกัน ซึ่งผู้เล่นจะต้องวางแผนอยู่ตลอดเวลาเลยก็ว่าได้

Graphic : กราฟิกต่าง ๆ ภายในเกม

ตัวเกมยังคงใช้กราฟิกจากเกมอย่าง Shovel Knight ที่จะมีความคลาสสิคเป็นแบบ Pixel อีกทั้งในเกมนี้ยังได้มีการยกระดับให้มาอยู่ในระดับ HD และมีการเคลื่อนไหวของตัวละครที่ลื่นไหลมาก ๆ อีกทั้ง Design Character ก็เรียกได้ว่าแทบจะยกมาจากเกมภาคหลักเลยก็ว่าได้ และในส่วนของ Sound ต่าง ๆ ภายในเกมนั้นก็ถือว่ามีการนำ Sound จากภาคหลักมาปรับใช้กับในภาคนี้ได้อย่างลงตัวเลย

ให้คะแนน 8 / 10 คะแนน เพราะ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่อาจจะไม่ใช่ภาคหลักของตัวเกม แต่ก็เป็นภาคเสริมที่สามารถทำออกมาได้ตามมาตรฐาน อีกทั้งยังมี Gameplay ในรูปแบบใหม่ และมีการยกระดับกราฟิกขึ้นมาอีกด้วย อีกทั้งยังมีความท้าทายตลอดเวลา