รีวิวเกม Destroy All Humans

เรียกได้ว่าเป็นการนำเกมเก่ากลับมาทำการ Remaster ใหม่อีกครั้งก็ว่าได้ ซึ่งในปัจจุบันเองก็มีหลายเกมมาก ๆ ที่ถูกนำกลับมาทำใหม่ หนึ่งในนั้นคือเกมอย่าง Destroy All Humans ที่เป็นเกมยอดฮิตตั้งแต่สมัย PS 2 โดยการกลับมาในครั้งนี้ก็ได้วางจำหน่ายให้กับหลาย ๆ Platform เลย แต่จะยังคงยอดเยี่ยมเหมือนเดิมหรือไม่ก็มาติดตามกันในรีวิวเกมนี้กันเลย

สามารถเล่นได้บนแพลตฟอร์ม Xbox , PlayStation , Nintendo Switch และ PC เท่านั้น

ราคา 559 บาท

Destroy All Humans : การกลับมาของการทำลายล้าง

Game About : รายละเอียดต่าง ๆ ภายในเกม

มาเริ่มกันในเรื่องราวภายในเกมกันก่อนเลย ตัวเกมจะยังคงใช้เรื่องราวในแบบเดียวกันกับในสมัยก่อน ที่จะเล่าถูกการเดินทางของมนุษย์ต่างดาว ที่บุกมายังโลกของมนุษย์ ที่จะมาทำภารกิจต่าง ๆ ที่ได้รับมอบหมายมาไม่ว่าจะเป็นการหาข้อมูล การแฝงตัว อีกทั้งกำจัดชาวโลก ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดภายในเกมก็จะอยู่ในโลกมนุษย์ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งเกมนี้ก็จะมีการดำเนินเรื่องราวต่าง ๆ ภาย Gameplay รวมไปถึง Cut Scene ที่จะมาพร้อมกับบทสนาที่ฮา ตลกมาก ๆ อีกด้วย โดยในบางครั้งมันอาจจะดูไร้เหตุผลไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าทำออกมาได้ดีในระดับนึงเลย อีกทั้งยังมาพร้อมกับข้อคิดที่แฝงมาระหว่างการเล่นอีกด้วย

Gameplay : ระบบภายในเกม

มาต่อกันในส่วนของ Gameplay กันเลย หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าเกมนี้เป็นเกมแนวอะไร เกมนี้จะเป็นเหมือนเกม Action Adventure ทั่วไป ที่จะต้องเล่นไปเป็นด่าน ๆ โดยในช่วงแรก ๆ ของเกมนั้นจะเป็นเหมือนการสอน Tutorial ที่จะเป็นการแนะนำลูกเล่นต่าง ๆ รวมไปถึงพื้นฐานภายในเกม ที่ผู้เล่นจะต้องใช้ไปจนจบเกม อีกทั้งยังสามารถนำสิ่งที่ Tutorial สอนมาปรับปรุงให้เกิดเป็น Combo ใหม่ ๆ ได้ อีกทั้งตัวเกมเองยังให้อิสระกับผู้เล่นในการสำรวจไปยังพื้นที่ต่าง ๆ แต่ละฉากอีกด้วย แต่ก็จะต้อง Clear ด่านนั้นให้ได้ก่อน ซึ่งใน Gameplay เองก็ทำให้ผู้เล่นเองได้รับบทเป็นมนุษย์ต่างดาว ที่จะมีความสามารถเหนือกว่ามนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ปืนไฟฟ้า การอ่านความคิดของมนุษย์ รวมไปถึงการ Copy ร่างก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งศัตรูภายในเกมก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็จะเป็นเหล่ามนุษย์โลกนี่แหละครับ

Graphic : กราฟิกต่าง ๆ ภายในเกม

อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าเกมนี้คือการ Remaster ของเกมเก่าในอดีต ซึ่งในส่วนของกราฟิกนั้นก็แน่นอนว่า จะต้องมีการพัฒนาให้ดีขึ้นนั่นเอง ที่ตัวเกมเองก็ได้มีการนำเทคโนโลยีอย่าง Unreal Engine 4 มาใช้ในภาคนี้ด้วย ที่ก็สามารถเทียบกับเกมระดับ AAA ได้เลย อีกทั้งยังมีการ Remaster ในเรื่องของ Sound ภายในเกมที่คมชัดมากขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่าเข้ากับเกมในสมัยนี้มาก ๆ

ให้คะแนน 8 / 10 คะแนน เพราะ ถือว่าเป็นการกลับมาที่มีการยกระดับในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นกราฟิกที่มีการทำให้คมชัดขึ้น อีกทั้ง AI ภายในเกมที่ฉลาดขึ้น แต่ก็น่าเสียดายที่ตัวเกมยังคงใช้เรื่องราวแบบเดิม ๆ รวมไปถึงจบง่ายเกินไปอีกด้วย