รีวิวเกม Strider

หากจะพูดถึงเกมเก่า ๆ บนเครื่อง Famicom หลาย ๆ คนคงจะนึกถึงเกมอย่าง Strider ที่เป็นเกม Action ในรูปแบบ Side Scrolling หรือในรูปแบบมุมมองจากด้านข้าง ที่หลังจากนั้นมาก็มีภาคต่อมาให้เล่นอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดนี้เกมนี้ก็ได้ถูกนำกลับมา Remake ใหม่ในทุก ๆ ด้าน แต่จะเป็นยังไงนั้นก็ต้องติดตามกันในรีวิวเกมนี้กันเลย

สามารถเล่นได้บนแพลตฟอร์ม PlayStation และ PC เท่านั้น

ราคา 485 บาท

Strider : เกมเดินหน้าบู๊แหลกสุดคลาสสิค

Game About : เกี่ยวกับเกมนี้

เกมนี้จะเป็นเกมแนว Action ที่จะให้ผู้เล่นได้เดินหน้าต่อสู้ได้เต็มที่ ที่จะนำเสนอผ่านมุมมองจากด้านข้าง ที่จะมีเรื่องราวที่จะเริ่มต้นมาโดยที่ผู้เล่นจะได้รับบทเป็น Hiryu ที่เป็นนินจาสายลับขององค์กรแห่งหนึ่ง ที่จะต้องทำภารกิจในการฆ่า Grandmaster Merio ที่เป็นตัวร้ายในเกมที่ทำให้โลกเข้าสู่ด้านมืด ซึ่งเรื่องราวต่าง ๆ จะค่อยเฉลยมาทีละเล็ก ๆ น้อย ๆในระหว่างที่ผู้เล่นกำลังเล่นอยู่นั่นเอง

Gameplay : ระบบภายในเกม

รูปแบบ Gameplay อย่างที่บอกเลยว่ามันคือเกม Action ที่เน้นการบู๊แหลก ที่จะไม่ใช่การที่ให้ผู้เล่นต้องมาคอยลอบเร้นเพื่อฆ่าศัตรูแต่อย่างใด โดยที่ภายในเกมนี้จะให้ผู้เล่นได้ต่อสู้อยู่ตลอดเวลาแทบจะไม่มีเวลาให้พักเลยก็ว่าได้ ซึ่งการควบคุมต่าง ๆ ภายในเกมก็ไม่ได้มีอะไรที่ซับซ้อนมากนักในช่วงแรก ๆ เช่นการเดิน โจมตี กระโดดเพียงเท่านั้น แต่เมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ ตัวเกมก็จะมีการ Unlock ทักษะใหม่ ๆ ที่จะทำให้ตัวละครของเราเก่งขึ้น ที่จะได้มาจากการจัดการกับบอสได้ หรือว่าจะเป็นการสำรวจแล้วเจอเข้าโดยบังเอิญ โดยที่ทักษะใหม่ ๆ เหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการต่อสู้ได้อย่างดี แถมยังเป็นทักษะที่สามารถใช้เพื่อผ่านไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ได้อีกด้วย โดยที่ตัวเกมเองก็จะให้อิสระในการสำรวจให้กับผู้เล่นอยู่มาก แต่ก็ต้องจำทางให้ดี เพราะระบบนำทางในเกมนี้นั้นไม่ได้ดีอย่างที่คุณคิด

Graphic : กราฟิกภายในเกม

ในส่วนของงานด้านภาพนั้นก็เรียกได้ว่าถูกยกระดับขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเจน แต่ก็ยังคงรักษาความคลาสสิคของเกมไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นตัวละครต่าง ๆ หรือฉากหลัง ที่ในบางอย่างก็ถูก Design เพิ่มเติมแต่ยังคงมีกลิ่นอายเดิม ๆ มาให้แฟน ๆ หายคิดถึงอยู่ ที่มาพร้อมกับ Frame Rate ที่ไหลลื่นและ Gameplay ที่ลื่นไหลอีกด้วย

ให้คะแนน 8 / 10 คะแนน เพราะ โดยรวมแล้วเกมนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่มีการ Remake ออกมาแล้วยังคงรักษามาตรฐาน หรือ เอกลักษณ์ของ Version เดิมไว้ได้อยู่ ที่เป็นการผสมผสสานเกมในแนว Action เข้ากันกับรูปแบบการนำเสนอสไตล์ 2.5D ได้ลงตัวมาก ๆ แต่หากเทียบกับราคาแล้วก็ยังคงรู้สึกว่าเกมนี้อาจจะดูแพงเกินไปหน่อย