รีวิวเกม Marsupilami Hoobadventure

เป็นที่แน่นอนว่าหลาย ๆ เกมของ Nintendo เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจอะไรหากมีคนจะเลียนแบบ เพราะเป็นเกมที่สามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัย กราฟิกน่ารัก แต่เกมอย่าง Marsupilami Hoobadventure ก็สามารถสร้างออกมาได้ใกล้เคียงกับต้นฉบับอย่าง Donkey Kong มาก ๆ แต่จะเป็นยังไงนั้นก็ต้องไปดูกันในรีวิวเกมนี้กันเลย

สามารถเล่นได้บนแพลตฟอร์ม Nintendo Switch , PlayStation และ PC เท่านั้น

ราคา 499 บาท

Marsupilami Hoobadventure : อีกเกม Action ที่สนุกของ Nintendo

Game About : เกี่ยวกับเกมนี้

เรื่องราวภายในเกมจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 3 เสือสาวอย่าง Punch , Hope และ Twister ได้บังเอิญไปปลดปล่อยปีศาจร้ายออกมาจากคำสาป จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้เล่นต้องผจญภัยเพื่อไล่จับปีศาจตัวนั้น และไม่ให้มันออกมาอาละวาดอีก ซึ่งทางทีมงานผู้พัฒนาอย่าง Ocellus Studio ก็ได้นำเสนอผ่านฉากหลังที่อยู่ในเมือง Palombia ที่มีความน่ารัก สีสันสดใส ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ ภายในเกมก็สามารถทำออกมาได้ดีเกินกว่าค่ายเล็ก ๆ ค่ายอื่น ๆ ด้วยซ้ำ รวมไปถึงการเล่นกับแสง เงา ภายในฉากที่สามารถทำออกมาได้มีมิติมาก ๆ และ Sound Effect ภายในเกมก็ผสมผสานเข้ากันได้กับฉากหลังมาก ๆ ซึ่งก็จะมีจังหวะเปลี่ยน Sound แบบกระทันหันระหว่างการเล่นอีกด้วย แต่ก็ยังมีข้อสังเกตอยู่คือ ในเกมนี้จะไม่มีเสียงพากย์ของตัวละครนั่นเอง

Gameplay : ระบบภายในเกม

รูปแบบ Gameplay ภายในเกมก็ยังคงเป็นเกมแนว Action 2D ที่มีการเล่นจากมุมมองด้านข้าง โดยที่ตัวละครหลักของผู้เล่นจะสามารถใช้หางเพื่อที่จะเป็นอาวุธได้ แถมยังใช้เพื่อโหนไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ภายาในฉากได้อีกด้วย ซึ่งโดยรวมแล้วก็จะมีระบบการเล่นพื้นฐานแบบ Action 2D ซึ่งด่านแต่ละด่านก็ถูกออกแบบให้ต้องใช้ความสามารถในการเล่น ซึ่งทั้งการเล่นหรือฉากหลังภายในเกมมันก็ดูคล้ายกับเกมอย่าง Donkey Kong ของ Nintendo อีกด้วย ซึ่งก็สามารถทำออกมาได้อย่างดี ไม่ได้แย่จนเกินไป

มีความท้าทายภายในเกมที่สูง

ในเกมนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่ต้องใช้ความสามารถพอสมควร เพราะจะมีความท้าทายมากมายรอผู้เล่นอยู่ภายในเกม โดยที่ตัวละครแต่ละตัวก็จะมีพลังงานที่ถูกจำกัดไว้ รวมไปถึงด่านแต่ละด่านก็ถูกออกแบบมาให้มีอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพื้นดินที่มีลูกเล่นในการเคลื่อนที่ ซึ่งก็ต้องใช้หางที่มีพลังวิเศษเกี่ยวไปยังพื้นที่ ที่กำหนดไว้ ซึ่งถ้าหากพลาดไปเพียงนิดเดียวก็อาจจะทำให้ผู้เล่นต้องเริ่มใหม่ได้เลย แถมยังมีทั้งด่านที่จะต้องใช้ความรวดเร็วในการวิ่งหนีเพื่อให้ผ่านด่านนั้น ๆ อีกด้วย ซึ่งก็เป็นอะไรที่ท้าทายและหลากหลายไปในเวลาเดียวกัน และถ้าหากเทียบกับเกมในแนวเดียวกัน เกมนี้ก็ทำออกมาได้ไม่เลวเลย แต่ก็ยังมีข้อสังเกตอยู่คือ Action ของตัวละครที่มีไม่มาก และ Easy Mode ที่เหมาะสำหรับมือใหม่ ที่จะทำให้ตตัวละครของผู้เล่นเป็นอมตะตลอดเวลานั่นเอง

ให้คะแนน 7 / 10 คะแนน เพราะ โดยรวมแล้วเกมนี้เป็นอีกหนึ่งเกม Action ที่สามารถเทียบมาตรฐานได้กับเกมในระดับ AAA หลายเกมได้เลย แต่ก็ยังคงมีข้อเสียอยู่บ้างเช่นตัวเกมที่สามารถเล่นได้ไม่กี่ชั่วโมงก็จบ และการต่อสู้ที่ซ้ำซากมากเกินไป